Skip to content
Trang chủ » กริยา แท้ คืออะไร?

กริยา แท้ คืออะไร?

กริยาแท้ กริยาไม่แท้ ดูยังไงไม่เข้าใจให้เตะ !!

กริยา แท้ คือ

กริยา แท้ คืออะไร?

กริยา แท้ เป็นกริยาที่ใช้แสดงการกระทำของประธานในประโยค เป็นคำที่แสดงถึงกระบวนการหรือการกระทำของซึ่งแสดงความหมายในประโยค

มีคำจำกัดความของกริยา แท้ ที่ควรรู้จัก

1. Finite verb คือ กริยาที่มีรูปและเวลาที่ชัดเจน
2. Non-finite verb คือ กริยาที่ไม่มีรูปและเวลาที่ชัดเจน
3. กริยาช่วย คือ กริยาที่ใช้เพื่อช่วยกริยาให้เป็นคำกลาง, คำขยายหรือต่อท้ายประโยค
4. Verb แปลว่า “กริยา”
5. Linking verb คือ กริยาที่ใช้เชื่อมคำนามหรือกลุ่มคำจับในประโยค
6. Verb ช่วย มีคำว่า “ได้, อยาก, เป็น, กำลัง” และอื่น ๆ ซึ่งใช้เพื่อดำเนินการกระทำหรือแสดงความสมบูรณ์ของกริยา

การใช้งานของกริยาแท้ในประโยค

กริยาแท้ใช้เพื่อแสดงความหมายของประธานในประโยค โดยบอกถึงการกระทำ, การเคลื่อนที่, การคิดเชิงประสิทธิภาพ หรือสถานะที่เป็นจริงในขณะหนึ่ง ๆ ของประธาน

ตัวอย่างประโยค:

1. เขาเดินไปที่ร้านหนังสือ (แสดงถึงการกระทำของเขา)
2. ผมเก่งในการเล่นกีตาร์ (แสดงถึงความสามารถของผู้พูด)
3. เด็กน้อยกำลังนอนอยู่ในเตียง (แสดงถึงการสถานะของเด็กน้อย)

การผันกริยาแท้ตามบุคลภาพ

กริยาแท้มีการผันตามบุคลภาพของประธาน โดยมีรูปแบบทั้งหมด 6 รูปดังนี้:

1. กริยาแท้รูปเอกพจน์ (Simple form) – ใช้กับส่วนท้ายของประธานที่ไม่มีการเติม’ s’ เช่น I walk, He runs
2. กริยาแท้รูปเป็นช่องเวลา (Simple past form) – ใช้กับกริยาในอดีต เช่น I walked, He ran
3. กริยาแท้รูปกริยาแท้ความรู้สึก (Simple past tense of the to be verb) – ใช้สำหรับการแสดงความรู้สึกในอดีต เช่น I was happy, She was sad
4. กริยาแท้รูปกริยาแท้ปัจจุบันกาล (Present participle form) – ได้รับการเติม ‘-ing’ หรือ ‘-en’ เมื่ออยู่ร่วมกับกริยาช่วย เช่น I am walking, He is running
5. กริยาแท้รูปกริยาแท้นามศัพท์ (Past participle form) – ได้รับการเติม ‘-ed’, ‘-d’, ‘-en’, ‘-t’, ‘-n’ เมื่ออยู่ร่วมกับกริยาช่วย เช่น I have walked, He has run
6. กริยาช่วยและกริยาแท้รวมกัน (Modal + base verb) – นิยามถึงกริยาช่วยที่ร่วมกับกริยาแท้เพื่อแสดงความต้องการหรือสามารถ เช่น I can run, She must go

กริยาแท้ในรูปกาละเทศน์

รูปกาละเทศน์ของกริยาแท้จะเปลี่ยนแปลงตามรูปแบบต่าง ๆ ของกริยา รูปแบบระเบียบทั้งหมดคือ:

1. กริยาแท้ในปัจจุบันกาล (Present tense) – ใช้กับกริยาในปัจจุบัน เช่น I walk, He runs
2. กริยาแท้ในอดีตกาล (Past tense) – ใช้กับกริยาในอดีต เช่น I walked, He ran
3. กริยาแท้ในอนาคตกาล (Future tense) – ใช้กับกริยาที่แสดงถึงเหตุการณ์ในอนาคต เช่น I will walk, He will run

กริยาแท้ที่มีรูปแบบพิเศษ

บางกริยาแท้จะมีรูปแบบพิเศษที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบปกติ เช่นกริยาแท้ของพวกคน ที่มีรูปพิเศษในบุคลภาพที่ 3 หน่วยเป็น ‘-s’, ‘-es’, ‘-ies’ เช่น He eats, She goes, She studies

การสร้างกริยาแท้ใหม่

สามารถสร้างกริยาแท้ใหม่ได้โดยการเติมคำหน้าข้างหรือคำหลังของประธาน เช่น

1. เติมคำหน้าข้างของประธาน: ขำ, เทยบริการ, ท่องเที่ยว เช่น เขาขำ, เด็กหญิงเทยบริการ, พวกเขาท่องเที่ยว
2. เติมคำหลังของประธาน: เร่งให้, ซ่อน, เกินความ เช่น เขาเร่งให้, เรือซ่อน, เเตงกวาเกินความ

ความแตกต่างระหว่างกริยาแท้และกริยากรรม

กริยาแท้และกริยากรรมเป็นสองประเภทของกริยาภาษาไทยที่ใช้เพื่อแสดงการกระทำในประโยค แต่มีความแตกต่างกันดังนี้:

1. กริยาแท้ (Transitive verb) – ใช้เพื่อแสดงการกระทำจากประธานไปสู่กรรม เช่น เขาซื้อหนังสือ, ที่ป่ากาจฉับเฉี่ยว
2. กริยากรรม (Intransitive verb) – ใช้เพื่อแสดงการกระทำโดยไม่มีกรรม เช่น เดิน, วิ่ง

กริยาแท้ในประโยคจำพวกแต่เฉพาะ

บางครั้ง กริยาแท้ในภาษาไทยมักจะใช้เพื่อแสดงการกระทำที่เกี่ยวข้องกับบางสถานการณ์หรือปรกติเฉพาะ โดยที่ในสถานการณ์ปรกติคำนามหลักในประโยคมักจะเป็นกรรม หรือกริยากรรม เช่น

1. เดินทาง (travel) – เช่น เดินทางไปสำเภา
2. นอนหลับ (sleep) – เช่น นอนหลับอุ่นๆ
3. คุย (chat) – เช่น คุยกันบ้าง

ภาษาไทยกับภาษาอื่นในการใช้กริยาแท้

คำศัพท์ที่ใช้แทนกริยาแท้สามารถแตกต่างกันไปในภาษาอื่น เช่น

1. ภาษาอังกฤษ – คู่อ่าน (Verb)
2. ภาษาฝรั่งเศส – verbe
3. ภาษาจีน – 动词 (Dòng cí)
4. ภาษาสเปน – verbo

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. Finite verb คืออะไร?
– Finite verb คือ กริยาที่มีรูปและเวลาที่ชัดเจน เป็นกริยาที่แสดงถึงการกระทำของประธานในประโยค

2. Non-finite verb ใช้ยังไง?
– Non-finite verb คือ กริยาที่ไม่มีรูปและเวลาที่ชัดเจน เช่น กริยาช่วย, กริยาช่วยแต่ละกริยา หรือกริยาที่เติมคำหน้าหรือคำหลังของประธาน

3. กริยาช่วย คืออะไร?
– กริยาช่วย เป็นกริยาที่ใช้เพื่อช่วยกริยาให้เป็นคำกลาง, คำขยายหรือต่อท้ายประโยค

4. Non-finite verb คืออะไร?
– Non-finite verb คือ กริยาที่ไม่มีรูปและเวลาที่ชัดเจน และเข้าร่วมกับกริยาช่วยเพื่อแสดงอธิบาย, การต่อเติม, หรือการกระทำที่ยกเว้นพระเอก

5. Verb แปลว่าอะไร?
– Verb แปลว่า “กริยา” เป็นคำที่ใช้เพื่อแสดงการกระทำหรือสถานะในประโยค

6. Linking verb คืออะไร?
– Linking verb คือ กริยาที่ใช้เชื่อมคำนามหรือกลุ่มคำจับในประโยค โดยไม่มีการแสดงการกระทำจริง เช่น เป็น, ใช่เป็น

7. Verb ช่วยมีอะไรบ้าง?
– Verb ช่วยมีคำว่า “ได้, อยาก, เป็น, กำลัง” และอื่น ๆ ซึ่งใช้เพื่อดำเนินการกระทำหรือแสดงความสมบูรณ์ของกริยา

8. Main verb กริยา แท้ คืออะไร?
– Main verb กริยา แท้ คือ กริยาที่ใช้แสดงการกระทำหรือสถานะใน

กริยาแท้ กริยาไม่แท้ ดูยังไงไม่เข้าใจให้เตะ !!

คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: กริยา แท้ คือ Finite verb คือ, non finite verb ใช้ยังไง, กริยาช่วย คือ, Non-finite verb คือ, Verb แปลว่า, Linking verb คือ, verb ช่วย มีอะไรบ้าง, Main verb

รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ กริยา แท้ คือ

กริยาแท้ กริยาไม่แท้ ดูยังไงไม่เข้าใจให้เตะ !!
กริยาแท้ กริยาไม่แท้ ดูยังไงไม่เข้าใจให้เตะ !!

หมวดหมู่: Top 70 กริยา แท้ คือ

คำกริยาแท้มีอะไรบ้าง

คำกริยาแท้มีอะไรบ้าง

คำกริยาแท้หรือที่เรียกกันว่า กริยาในภาษาไทย เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราสื่อความหมายของประโยคได้อย่างชัดเจนและเต็มที่กว่า นอกจากนี้ยังช่วยดำเนินการกระทำของนายกรัฐมนตรีพร้อมทั้งน้ำหนักเสียงของโครงการได้อีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการเลือกใช้คำกริยาแท้ รวมถึงการกำหนดรูปแบบและบทบาทของทั้งคำกริยาแท้ในประโยค

หากคุณเคยเรียนภาษาไทยในวัยเด็กแล้วล้วนจะพบว่า คำกริยาแท้คือคำที่ใช้ในรูปสมบูรณ์โดยไม่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของผู้เอ่ยถึง จึงมักสร้างความสับสนให้กับผู้เรียนในการรู้ความของคำนั้น อย่างไรก็ดี คำกริยาแท้มีความสำคัญอย่างมากในการสื่อสารเป็นภาษาไทย

เราจะมาพูดถึงบทบาทของคำกริยาแท้ในประโยค โดยทั่วไปแล้วคำกริยาแท้มีบทบาทหลักอยู่ 4 แบบดังนี้

1. กริยาประโยคหลัก (Main Verb)
กริยาประโยคหลักคือกริยาที่เป็นแนวหลักในการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และความต้องการของเรา เช่น นอน (sleep), กิน (eat), เดิน (walk) เป็นต้น

2. กริยาอุปนิสัย (Modal Verb)
กริยาอุปนิสัยคือกริยาที่ใช้มาช่วยกริยาในประโยคหลักเพื่อแสดงความจำเป็น ความเป็นไปได้ หรือความต้องการ เช่น จะ (will), อาจ (might), ต้อง (must) เป็นต้น

3. กริยาช่องเติม (Auxiliary Verb)
กริยาช่องเติมคือกริยาที่เป็นส่วนหนึ่งของกริยาหลักเพื่อช่วยในกระบวนการเปลี่ยนแปลงหน้าแสดงความคิดเห็นของประโยค เช่น ได้ (can), ขึ้น (go up), เริ่ม (start) เป็นต้น

4. กริยาแทรก (Phrasal Verb)
กริยาแทรกคือคำกริยาที่มีความหมายพิเศษเมื่อใช้ร่วมกับคำอื่นๆ เป็นเสียงประกอบ เช่น ปิดประตู (close the door), เริ่มทำ (start to do) เป็นต้น

นอกจากนี้คำกริยาแท้ยังมีลักษณะการเปลี่ยนรูปตามเฉลยแบบภาษาไทย ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคำขยายครุยเสียงสระตามภาพร้องเสียงลด เช่น วิ่ง (run) – ว้าย (ran), กลุ่มคำขยายครุยเสียงสระตามภาพร้องเสียงขยาย เช่น ใส่ (wear) – ใส่ (put on), และกลุ่มคำเติมส่วนเสียงเข้าเสียงดัด เช่น เดิน (walk) – เดิน (keep walking)

คำกริยาแท้ในภาษาไทยเป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งนักเรียนการเรียนรู้ในชั้นเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา และถ้าคุณกำลังศึกษาภาษาไทยอย่างต่อเนื่อง คุณจะพบว่ามีกฎรูปไว้เพื่อช่วยให้เราใช้คำกริยาแท้ในรูปภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. คำกริยาแท้คืออะไร?
คำกริยาแท้คือคำที่ใช้ในรูปสมบูรณ์โดยไม่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของผู้เอ่ยถึง และเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารเป็นภาษาไทย

2. มีกี่ประเภทของคำกริยาแท้ในภาษาไทย?
คำกริยาแท้มี 4 ประเภท ได้แก่ กริยาประโยคหลัก (Main Verb), กริยาอุปนิสัย (Modal Verb), กริยาช่องเติม (Auxiliary Verb), และ กริยาแทรก (Phrasal Verb)

3. มีลักษณะการเปลี่ยนรูปของคำกริยาแท้ในภาษาไทยอย่างไร?
คำกริยาแท้ในภาษาไทยจะเปลี่ยนรูปตามกลุ่มเฉลยแบบภาษาไทย ที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคำขยายครุยเสียงสระตามภาพร้องเสียงลด, กลุ่มคำขยายครุยเสียงสระตามภาพร้องเสียงขยาย, และกลุ่มคำเติมส่วนเสียงเข้าเสียงดัด

4. ในการเลือกใช้คำกริยาแท้ควรทำอย่างไร?
การเลือกใช้คำกริยาแท้ควรพิจารณาจากบทบาทของคำกริยาและความหมายของประโยคที่ต้องการสื่อสาร โดยคำกริยาแท้ควรเป็นสมบูรณ์และถูกต้องตามหลักภาษาไทย

ในสรุป คำกริยาแท้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราสื่อความหมายได้อย่างชัดเจนและเต็มที่ ภาษาไทยมีกฎรูปที่เป็นมาตรฐานให้ผู้เรียนทำความเข้าใจและใช้คำกริยาแท้ได้อย่างถูกต้อง คำกริยาแท้ยังมีความหลากหลายตามบทบาทและสถานการณ์ที่ใช้ในประโยค จึงเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะในการสื่อสารภาษาไทยของเรา

Verb แท้ ไม่แท้ ต่างกันอย่างไร

Verb แท้ ไม่แท้ ต่างกันอย่างไร

การศึกษาเกี่ยวกับภาษาไทยอาจทำให้เราสังเกตพบว่ามีคำกริยาที่แตกต่างกันอย่างกล่าวถึงคำกริยาแท้และคำกริยาไม่แท้ ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำกริยาแท้และคำกริยาไม่แท้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร

คำกริยาแท้คืออะไร?
คำกริยาแท้คือคำกริยาที่ใช้เพื่อแสดงท่าทีหรือสภาวะที่เป็นความจริงตามสภาวะในชีวิตจริง และสามารถใช้กับทุกเวลา หมายความว่าตัวกริยาจะเหมือนกันทุกช่วงเวลา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นว่าเกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือผ่านไปแล้วในอดีต

เช่น คำกริยา “เดิน” เป็นคำกริยาแท้ เพราะสามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลา เช่น เดินไปร้านสะดวกซื้อ เดินขึ้นไปชั้นสอง เดินเป็นเส้นตรง

อีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น คำกริยา “กิน” ก็เป็นคำกริยาแท้ เพราะสามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลา เช่น กินอาหารเย็น กินผลไม้ เป็นต้น

คำกริยาไม่แท้คืออะไร?
คำกริยาไม่แท้หมายถึงคำกริยาที่ไม่สามารถใช้ได้ทุกเวลา และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะหรือเงื่อนไขที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกันคำกริยาไม่แท้มีลักษณะสามรูปที่เปลี่ยนแปลงตามรูปโดยสระ “อิ”

รูปปัจจุบัน คือรูปที่ใช้แสดงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน เช่น จับ ดู พบ เห็น เป็นต้น

รูปอดีต คือรูปที่ใช้แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วและสิ้นสุดลง หรือเกิดขึ้นแล้วเสร็จสิ้นในอดีต เช่น จับ ดู พบ เห็น เป็นต้น

รูปเตรียมอดีต คือรูปที่ใช้แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วและเสร็จสมบูรณ์แล้วในอดีต หรือใช้เมื่อเกิดการกระทำอื่นขึ้น คำกริยาไม่แท้รูปนี้ประกอบด้วยคำกริยาที่อักขระลำดับสุดท้ายด้วย “อิ” หรือ “อ่อ” เช่น จับ ดู พบ เห็น ปัจจุบันเป็นต้น

ความแตกต่างระหว่างคำกริยาแท้และคำกริยาไม่แท้
คำกริยาแท้และคำกริยาไม่แท้แตกต่างกันตามประเภทและลักษณะการใช้งาน ดังนี้

1. รูปเสมอ
คำกริยาแท้มักจะเป็นรูปเสมอทั้งหมด เช่น คำกริยา “เดิน” เป็นรูปเสมอทุกๆ กรณี เช่น เดินเป็นเส้นตรง เดินขึ้นไปชั้นสอง เดินไปร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ

ส่วนคำกริยาไม่แท้ รูปเสมอก็สามารถใช้ได้ แต่อาจมีรูปอื่นเสมือนคำกริยาแท้เพิ่มมาบ้างเช่นกัน อลงแลก เดินแต่ละก้าว ตัวอย่างนี้จะเป็นการเพิ่มลักษณะการกระทำอื่น ๆ ที่กำกับรูปอื่น ในกรณีของคำกริยา “ลง” หมายถึงการเริ่มกระทำการลงแทนที่รูปโดยตรง เช่น ลงผ้าใส่ตู้

2. อดีตและเจาะจงของเหตุการณ์
คำกริยาแท้ในรูปอดีตจะไม่สามารถใช้ในปัจจุบันได้ ซึ่งภาษาไทยก็มีความยืดหยุ่นที่ไม่เกี่ยวกับเวลาการกระทำ อดีต ณ เวลานั้นเป็นต้น เช่น เดิน เคยตามเดิน

ความแตกต่างอื่น ๆ ของคำกริยาไม่แท้อาจเกี่ยวกับลักษณะเจาะจงของเหตุการณ์บนคำกริยาแท้ ผู้พูดหรือเขียนจะต้องใช้คำกริยาที่ไม่แท้เพื่อให้คำกริยาสอดคล้องตามรูปแบบการเจาะจงที่ต้องการเช่น อกแลก เดิมไว้ ส่งกลับ ฯลฯ

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. คำกริยา “กิน” เป็นคำกริยาแท้หรือไม่?
ใช่ คำกริยา “กิน” เป็นคำกริยาแท้ เพราะสามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลา เช่น กินอาหารเช้า กินข้าวเที่ยง เป็นต้น

2. คำกริยา “อ่าน” เป็นคำกริยาแท้หรือไม่?
ใช่ คำกริยา “อ่าน” เป็นคำกริยาแท้ เพราะสามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลา เช่น อ่านหนังสือ อ่านนิยาย เป็นต้น

3. คำกริยา “ไป” เป็นคำกริยาไม่แท้หรือไม่?
ใช่ คำกริยา “ไป” เป็นคำกริยาไม่แท้ รูปของคำกริยาไม่แท้ที่เกี่ยวข้องกับ “ไป” คือ “ไป” “มา” เช่น เดินไปคลอด เดินมาจากหอได้เป็นต้น

4. คำกริยา “ขึ้น” เป็นคำกริยาไม่แท้หรือไม่?
ใช่ คำกริยา “ขึ้น” เป็นคำกริยาไม่แท้ รูปของคำกริยาไม่แท้ที่เกี่ยวข้องกับ “ขึ้น” คือ “ขึ้น” “ลง” เช่น นั่งขึ้นสามเหลี่ยม เดินลงอาคาร เป็นต้น

ดูเพิ่มเติมที่นี่: phauthuatdoncam.net

Finite Verb คือ

Finite verb คือ, commonly known as “khue” in Thai language, is an essential grammatical concept that plays a crucial role in sentence construction. Understanding finite verbs is vital for effective communication in Thai, as they are responsible for indicating the tense, mood, and aspect of a sentence. In this article, we will explore the various aspects of finite verbs in Thai, their usage, and provide answers to frequently asked questions about the topic.

What is a Finite Verb?
A finite verb is a verb form that is marked for tense, mood, or aspect and shows agreement with the subject of a sentence. In Thai, a finite verb is formed by combining the base verb with a set of word-ending particles that indicate various grammatical features. The use of finite verbs in Thai is necessary to convey important information about the action or state described in a sentence.

Tense in Finite Verbs
One of the primary functions of finite verbs is to convey information about the tense of a sentence. Thai has three tenses: past, present, and future. To indicate tense, Thai finite verbs change their form according to the time frame of the action or state being described. For example:

– Past tense: ได้ (dâi) + base verb
– Present tense: กำลัง (kamlang) + base verb
– Future tense: จะ (ja) + base verb

Mood in Finite Verbs
Finite verbs in Thai also provide information about the mood of a sentence. Mood refers to the attitude or intention of the speaker towards the action being described. Thai recognizes three moods: indicative, imperative, and conditional. The following particles are used to express these different moods:

– Indicative mood: กำลัง (kamlang), ได้ (dâi), จะ (ja)
– Imperative mood: เถอะ (thuh), อย่า (yàa)
– Conditional mood: ถ้า (thâa), หาก (hâak), ให้ (hâi)

Aspect in Finite Verbs
The aspect of a sentence refers to how the action or state described unfolds over time. In Thai, finite verbs employ various particles to convey different aspects. The most common aspect particles used in Thai are:

– Continuative aspect: กำลัง (kamlang)
– Completive aspect: เสร็จ (set), ได้ (dâi)
– Inchoative aspect: เริ่ม (rêm)
– Terminative aspect: หมด (mòt)

FAQs about Finite Verb คือ in Thai:

Q: What is the difference between a finite verb and a non-finite verb in Thai?
A: A finite verb in Thai is marked for tense, mood, and aspect and shows agreement with the subject of a sentence. Non-finite verbs, on the other hand, do not indicate these grammatical features and are often used in conjunction with finite verbs to form complex sentence structures.

Q: Can a sentence in Thai have more than one finite verb?
A: Yes, Thai sentences can contain multiple finite verbs. Coordinating finite verbs allows speakers to express various actions or states occurring simultaneously or in sequence.

Q: How do I determine the correct tense of a finite verb in Thai?
A: The tense of a finite verb in Thai is indicated by the particles used with the base verb. For example, the particle ได้ (dâi) indicates past tense, กำลัง (kamlang) indicates present tense, and จะ (ja) indicates future tense.

Q: Are there any irregularities in the formation of finite verbs in Thai?
A: Yes, there are a few irregularities in the formation of finite verbs in Thai. Some verbs undergo changes in their base form, while others may require additional particles to indicate certain aspects. However, these irregularities are relatively limited compared to other languages.

Q: Can you provide examples of sentences using finite verbs in Thai?
A: Certainly! Here are a few examples:

– ผมไปเมืองเท้าจากบ้าน (Pǒm bpai muang táo jàak bâan) – I walked to town from home. (Past tense)
– คุณกำลังอ่านหนังสือ (Khun kamlang aan năngsǔe) – You are reading a book. (Present tense)
– เดือนหน้าเราจะไปเที่ยวปารีส (Duǝn nâa rao ja bpai thîao pāriis) – Next month, we will go to Paris. (Future tense)

Understanding the concept of finite verbs, including their tense, mood, and aspect, is essential for mastering the Thai language. By recognizing the key characteristics of finite verbs and practicing their usage, learners can improve their ability to construct grammatically accurate and meaningful sentences.

Non Finite Verb ใช้ยังไง

Non-finite verbs are an essential component of the Thai language. Understanding how to use them correctly can greatly enhance your communication skills and allow you to express yourself more effectively. In this article, we will explore the concept of non-finite verbs in Thai, their different forms and functions, and provide practical examples to help you grasp their usage.

What are Non-finite Verbs?

Non-finite verbs, also known as verbals, are verb forms that do not function as the main verb in a sentence. They are not bound by tense, aspect, or mood and have no subject-verb agreement. Instead, they can function as nouns, adjectives, or adverbs in a sentence. In Thai, non-finite verbs come in three distinct forms: infinitives, participles, and verb phrases.

Infinitives:
Infinitives are the basic form of a verb in Thai. They are generally preceded by the particle “ได้” (dâai) or “ไม่” (mâi) to indicate the ability or inability to do something. Infinitives can be used as nouns, adjectives, or adverbs. For example:

1. ทำ (tham) – to do
– ได้ทำ (dâai tham) – able to do
– ไม่ทำ (mâi tham) – unable to do
– ทำงาน (tham ngaan) – to work (acting as a noun)
– การทำ (gaan tham) – the act of doing (acting as a noun)

2. ตาย (taai) – to die
– ไม่ตาย (mâi taai) – not to die
– ตายห่างๆ (taai hàang hàang) – dying slowly (acting as an adverb)
– ความตาย (khwaam taai) – death (acting as a noun)

Participles:
Participles are verb forms used as adjectives to describe a noun. In Thai, there are two types of participles: the present participle and the past participle.

1. Present Participle:
– เที่ยว (thîao) – to travel
– เดินเที่ยว (deern thîao) – walking or traveling
– นั่งเที่ยว (nâng thîao) – sitting and traveling (taking public transport)

2. Past Participle:
– ซื้อ (sêu) – to buy
– ซื้อแล้ว (sêu láew) – already bought
– ซื้อแล้วชอบ (sêu láew châwp) – already bought and liked

Verb Phrases:
Verb phrases consist of a main verb and an additional verb that supplements or modifies its meaning. The additional verb can be an infinitive, a participle, or even certain adverbs. For example:

1. วิ่งไป (wîng bpai) – running to
2. นั่งอ่าน (nâng àan) – sitting and reading
3. กินอร่อย (gin à-ròi) – eating deliciously

How to Use Non-finite Verbs in Thai:

Non-finite verbs are commonly used in Thai to express actions, states, or qualities. Let’s take a closer look at some situations where non-finite verbs are commonly used:

1. ใช้ได้ (chái dâai) – Can be used:
– Non-finite verbs are used to express the potential to do something. For example:
– ฉันเรียนภาษาไทยใช้ได้ (chăn rian paa-săa tai chái dâai) – I can speak Thai.

2. ไม่ได้ (mâi dâai) – Cannot be done:
– Non-finite verbs are also used to express the impossibility of doing something. For example:
– เขามาเที่ยวไม่ได้ (káo maa thîao mâi dâai) – He/She cannot come for a visit.

3. Verb + ได้ (dâai) – Can verb:
– Non-finite verbs can be used to express the ability or potential to perform an action. For example:
– เราทำได้ดี (rao tham dâai dee) – We can do it well.

FAQs:

1. Can non-finite verbs behave as nouns in a sentence?
– Yes, non-finite verbs can function as nouns and be used to talk about actions or occurrences. For example:
– การอ่าน (gaan àan) – reading
– การทำงาน (gaan tham ngaan) – working

2. Can non-finite verbs take other parts of speech as modifiers?
– Yes, non-finite verbs can be modified by adjectives or other adverbs to communicate additional information about the action. For example:
– เดินช้าๆ (deern cháa cháa) – walking slowly

3. Can non-finite verbs indicate past actions?
– Yes, past participles can be used to express completed actions or states. For example:
– ได้กิน (dâai gin) – ate
– ได้เขียน (dâai khĭan) – written

In conclusion, non-finite verbs play a significant role in the Thai language as they allow us to express actions, states, and qualities. By understanding their different forms and functions, you can greatly enhance your communication skills in Thai and express yourself more effectively. Remember to practice using non-finite verbs in various contexts to solidify your understanding and fluency in the language.

กริยาช่วย คือ

กริยาช่วย คืออะไร?
กริยาช่วย (Auxiliary Verb) เป็นกริยาที่ใช้เพื่อช่วยกริยาหลัก (Main Verb) ในประโยคภาษาไทย เพื่อเสริมสร้างความหมายที่ชัดเจนและครบถ้วนขึ้น กริยาช่วยช่วยให้ประโยคมีประสิทธิภาพในการกล่าวเสียง และช่วยให้ผู้พูดหรือผู้เขียนสะท้อนความลึกซึ้งกับเนื้อหามากขึ้น

กริยาช่วย มีหลายชนิด แต่สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ “กริยาช่วยวิเศษณ์” (Modal auxiliary verb) และ “กริยาช่วยหน้า” (Auxiliary verb of Aspect) โดยกริยาช่วยวิเศษณ์จะใช้เพื่อเสริมคำกริยาหลักเพื่อแสดงการดำเนินการพิเศษ ส่วนกริยาช่วยหน้าจะใช้เพื่อบ่งบอกถึงช่วงเวลาหรือเจตนารมณ์ของกริยาหลัก

กริยาช่วยในภาษาไทยอาจเป็นอย่างไรบ้าง?

1. กริยาช่วย “จะ” (Most Commonly Used)

กริยาช่วย “จะ” ใช้แสดงเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ในอนาคต โดยทั่วไปใช้กับกริยาหลักในลักษณะที่ยังไม่เป็นจริงในปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค:
– เธอจะเป็นครูเหรอ? (Will she be a teacher?)
– พรุ่งนี้ฉันจะไปเที่ยวทะเล (Tomorrow I will go to the beach)

2. กริยาช่วย “กำลัง” (Describing an Ongoing Action)

กริยาช่วย “กำลัง” ใช้แสดงถึงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค:
– เขากำลังอ่านหนังสืออยู่ (He is reading a book)
– เธอกำลังเขียนบทความ (She is writing an article)

3. กริยาช่วย “แล้ว” (Describing Sequential Actions)

กริยาช่วย “แล้ว” ใช้แสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นเสร็จแล้ว และเกิดเหตุการณ์ใหม่ตามมา

ตัวอย่างประโยค:
– ฉันกินข้าวแล้ว (I have eaten)
– เขาได้รับเสื้อใหม่แล้ว (He has received a new shirt)

4. กริยาช่วย “ควร” (Expressing Obligation or Recommendation)

กริยาช่วย “ควร” ใช้แสดงถึงการแนะนำหรือความจำเป็นที่ต้องกระทำ

ตัวอย่างประโยค:
– เราควรช่วยเหลือผู้อื่น (We should help others)
– คุณควรพักผ่อนให้เพียงพอ (You should take enough rest)

5. กริยาช่วย “ยัง” (Describing an Ongoing Action)

กริยาช่วย “ยัง” ใช้แสดงถึงการกระทำเป็นที่ยังไม่เสร็จสิ้นหรือยังไม่เกิดขึ้น

ตัวอย่างประโยค:
– เขายังไม่กลับบ้าน (He has not returned home yet)
– ฉันยังไม่ได้กินข้าว (I have not eaten yet)

FAQs

Q: สามารถใช้กริยาช่วยได้ทุกประโยคหรือไม่?
A: การใช้กริยาช่วยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของประโยค ไม่ใช้ทุกประโยค

Q: กริยาช่วยในภาษาไทยมีเทคนิคในการใช้หรือไม่?
A: การเลือกใช้กริยาช่วยในภาษาไทยขึ้นอยู่กับบทบาททางไวยากรณ์ของประโยค และความสัมพันธ์ระหว่างกริยาหลักและกริยาช่วย ความเสียงและความหมายของประโยคจะเปลี่ยนแปลงตามการใช้และลำดับของกริยาช่วย

Q: เราต้องมีกริยาช่วยเสมอในประโยคหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นต้องมีกริยาช่วยในประโยคทุกกรณี เพียงแต่การใช้กริยาช่วยจะทำให้ประโยคมีความหมายที่ชัดเจนและเต็มที่ขึ้น

พบ 5 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ กริยา แท้ คือ.

กริยาแท้ กับ กริยาช่วย ต่างกันยังไงคับ? - Pantip
กริยาแท้ กับ กริยาช่วย ต่างกันยังไงคับ? – Pantip
Speaking I: เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Verb (กริยา)
Speaking I: เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Verb (กริยา)
Level 5 - Unit 1: Auxiliary Verb - Megagoal 5-1 - Memrise
Level 5 – Unit 1: Auxiliary Verb – Megagoal 5-1 – Memrise
Verb คืออะไร? ในภาษาอังกฤษมี Verb กี่แบบ? มาดูกัน! - Eng A Wink
Verb คืออะไร? ในภาษาอังกฤษมี Verb กี่แบบ? มาดูกัน! – Eng A Wink
Finite Verb คืออะไร และ Non Finite Verb คืออะไร สรุปวิธีสังเกตุง่ายๆ  มาดูกัน - ภาษาอังกฤษออนไลน์
Finite Verb คืออะไร และ Non Finite Verb คืออะไร สรุปวิธีสังเกตุง่ายๆ มาดูกัน – ภาษาอังกฤษออนไลน์
กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้
กริยาช่วยมีด้วยกันทั้งหมด 24 ตัวดังนี้
กริยาช่วยคืออะไร Auxiliary Verb และ Helping Verb ทำไมมีตั้ง 24 ตัว -  ภาษาอังกฤษออนไลน์
กริยาช่วยคืออะไร Auxiliary Verb และ Helping Verb ทำไมมีตั้ง 24 ตัว – ภาษาอังกฤษออนไลน์
ถ้าไร้ซึ่ง
ถ้าไร้ซึ่ง “กริยา” (Verb) คนเราจะบอกรักกันได้ยังไง ตอนที่ 1
Intransitive Verbs และ Transitive Verbs ต่างกันอย่างไร
Intransitive Verbs และ Transitive Verbs ต่างกันอย่างไร
Jhakri: หลักการใช้ Verb
Jhakri: หลักการใช้ Verb
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ตอนที่ 22 Verbs : Introduction
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ตอนที่ 22 Verbs : Introduction
Modal Verb คือ กริยาช่วย มีอะไรบ้าง สรุป แท้ | Pangpond
Modal Verb คือ กริยาช่วย มีอะไรบ้าง สรุป แท้ | Pangpond
หลักการใช้ Verb (คำกริยา) - Verb คืออะไร / Verb มีอะไรบ้าง อธิบายละเอียด! -  ภาษาอังกฤษออนไลน์
หลักการใช้ Verb (คำกริยา) – Verb คืออะไร / Verb มีอะไรบ้าง อธิบายละเอียด! – ภาษาอังกฤษออนไลน์
คำกริยามีอะไรบ้าง | What Is A Verb?
คำกริยามีอะไรบ้าง | What Is A Verb?
Intransitive Verbs และ Transitive Verbs ต่างกันอย่างไร
Intransitive Verbs และ Transitive Verbs ต่างกันอย่างไร
กริยาแท้ กริยาไม่แท้ ดูยังไงไม่เข้าใจให้เตะ !! - Youtube
กริยาแท้ กริยาไม่แท้ ดูยังไงไม่เข้าใจให้เตะ !! – Youtube
กริยา(Verb): ความหมายของกริยาและกริยาแท้ (Finite Verbs) Ep. 2 - Youtube
กริยา(Verb): ความหมายของกริยาและกริยาแท้ (Finite Verbs) Ep. 2 – Youtube
Verb คืออะไร? ในภาษาอังกฤษมี Verb กี่แบบ? มาดูกัน! - Eng A Wink
Verb คืออะไร? ในภาษาอังกฤษมี Verb กี่แบบ? มาดูกัน! – Eng A Wink
ทำความรู้จัก Finite และ Non-Finite Verbs (2) | Learning 4 Live
ทำความรู้จัก Finite และ Non-Finite Verbs (2) | Learning 4 Live
่100 คํากริยาภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยสุดๆ พร้อมคำอ่านคำแปล! - ภาษาอังกฤษออนไลน์
่100 คํากริยาภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยสุดๆ พร้อมคำอ่านคำแปล! – ภาษาอังกฤษออนไลน์
การตั้งประโยคคำถามแบบมีกริยาช่วยนำหน้าและ Wh-Questions - Nockacademy
การตั้งประโยคคำถามแบบมีกริยาช่วยนำหน้าและ Wh-Questions – Nockacademy
คำไหนกริยาแท้ คำไหนกริยาช่วย เรามีคำตอบ ตอบโจทย์คลายสงสัยแน่นอน!!!! -  Youtube
คำไหนกริยาแท้ คำไหนกริยาช่วย เรามีคำตอบ ตอบโจทย์คลายสงสัยแน่นอน!!!! – Youtube
คำกริยามีอะไรบ้าง | What Is A Verb?
คำกริยามีอะไรบ้าง | What Is A Verb?
Modal Verbs คืออะไร ใน ภาษาอังกฤษ แบบครบเครื่อง ทุกเรื่องที่ต้องรู้
Modal Verbs คืออะไร ใน ภาษาอังกฤษ แบบครบเครื่อง ทุกเรื่องที่ต้องรู้
กริยา - Pantip
กริยา – Pantip
Verb - คำกริยา
Verb – คำกริยา
Learning English By Rinna: Verb คำกริยา
Learning English By Rinna: Verb คำกริยา
หลักการใช้ Verbs - คำกริยา ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
หลักการใช้ Verbs – คำกริยา ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ | Wordy Guru
กริยา 3 ช่อง ภาษาอังกฤษ | Wordy Guru
กริยาช่วย
กริยาช่วย
หลักการใช้ Verbs - คำกริยา ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
หลักการใช้ Verbs – คำกริยา ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
Ep.12 Non-Finite Verb กริยาไม่แท้ คืออะไร ใช้ยังไง - Youtube
Ep.12 Non-Finite Verb กริยาไม่แท้ คืออะไร ใช้ยังไง – Youtube
เข้าใจ Gerund หรือ Verb + Ing ใน 5 นาที ใช้ยังไง? ต้องตามหลัง Verb ตัวไหนดี?
เข้าใจ Gerund หรือ Verb + Ing ใน 5 นาที ใช้ยังไง? ต้องตามหลัง Verb ตัวไหนดี?
How To Use
How To Use “Verb” – สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
Reading | Toeicsociety
Reading | Toeicsociety
คำกริยามีอะไรบ้าง | What Is A Verb?
คำกริยามีอะไรบ้าง | What Is A Verb?
หลักการใช้ Verbs - คำกริยา ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
หลักการใช้ Verbs – คำกริยา ภาษาอังกฤษ คืออะไร?
Tense 1 | Pdf
Tense 1 | Pdf
Adv. แปลว่า คำกริยาวิเศษณ์ (คำย่อของ Adverb), คำช่วยกริยา | Eng Hero  เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี
Adv. แปลว่า คำกริยาวิเศษณ์ (คำย่อของ Adverb), คำช่วยกริยา | Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี
Modal Verb (กริยาช่วย) ฉบับที่สมบูรณ์แบบครบเครื่องทุกเรื่องที่ต้องรู้
Modal Verb (กริยาช่วย) ฉบับที่สมบูรณ์แบบครบเครื่องทุกเรื่องที่ต้องรู้
Verbs1
Verbs1
تويتر \ รับสอน/งานภาษาอังกฤษ (English Midnight) على تويتر:
تويتر \ รับสอน/งานภาษาอังกฤษ (English Midnight) على تويتر: “🦄ภาษาอังกฤษ : Verb (Ep.1) 🦄เตรียมสอบ, เพิ่มเกรด #Sheetสรุป #ชีทสรุป #Dek63 #Dek64 #Dek65 #แพทย์รังสิต 🌟เครดิต #Englishmidnight Https://T.Co/Gfovao6Ftb”
English So Easy : Verb To Be คืออะไร..? และมีหลักการใช้อย่างไร..?
English So Easy : Verb To Be คืออะไร..? และมีหลักการใช้อย่างไร..?
100 Verbs กริยา 100 คำ | English By Chris
100 Verbs กริยา 100 คำ | English By Chris
ภาษาอังกฤษง้ายง่าย] รู้รึเปล่าว่า Verb ในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ  Verb แท้ และ Verb ไม่แท้ ซึ่ง Verb แท้ในที่นี้จะเป็น Verb  ที่ผันตามประธานด้านหน้า หรือก็คือ เนื้อหา Subject Verb Agreement  ที่เราสอนไปครั้งก่อน
ภาษาอังกฤษง้ายง่าย] รู้รึเปล่าว่า Verb ในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Verb แท้ และ Verb ไม่แท้ ซึ่ง Verb แท้ในที่นี้จะเป็น Verb ที่ผันตามประธานด้านหน้า หรือก็คือ เนื้อหา Subject Verb Agreement ที่เราสอนไปครั้งก่อน
Review Of Subject Question And Object Question | Ajarn In'S Blog
Review Of Subject Question And Object Question | Ajarn In’S Blog
ทำความเข้าใจ Adverb ควรใช้อย่างไร? วางตรงไหนของประโยค?
ทำความเข้าใจ Adverb ควรใช้อย่างไร? วางตรงไหนของประโยค?
คำกริยา Verb | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร - Youtube
คำกริยา Verb | เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน | คืออะไร ใช้อย่างไร – Youtube
Verb To Be คืออะไร? หลักการใช้ Is Am Are Was Were - English Down-Under
Verb To Be คืออะไร? หลักการใช้ Is Am Are Was Were – English Down-Under
เมื่อไหร่ควรใช้ Do เมื่อไหร่ควรใช้ Make
เมื่อไหร่ควรใช้ Do เมื่อไหร่ควรใช้ Make

ลิงค์บทความ: กริยา แท้ คือ.

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ กริยา แท้ คือ.

ดูเพิ่มเติม: https://phauthuatdoncam.net/tv-shows-a-z

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *