ภาษาอังกฤษตัวเลข 1-100: เรียนรู้การอ่านและการเขียน

ภาษาอังกฤษตัวเลข 1-100: การเรียนรู้การอ่านและการเขียนตัวเลขภาษาอังกฤษ

บทนำ

ตัวเลขเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวัน เราใช้ตัวเลขเพื่อนับเงินที่มี เวลาที่ผ่านไป สถานที่ที่ต้องการไป อีกทั้งใช้ในการทำงานทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และสถิติในสถานการณ์ต่าง ๆ ดังนั้นการเรียนรู้การอ่านและการเขียนตัวเลขเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้เข้าใจและใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภาษาอังกฤษและตัวเลข

เลขภาษาอังกฤษคือตัวเลขที่ใช้ในการแทนค่าภาษาอังกฤษ เราสามารถอ่านและเขียนเลขภาษาอังกฤษตั้งแต่ 1 ถึง 100 เพื่อเรียนรู้และใช้ในการสื่อสารระหว่างภาษาได้

1. เรื่องราวของตัวเลขในภาษาอังกฤษ

ตัวเลขในภาษาอังกฤษมีทั้งตัวเลขพื้นฐานและตัวเลขผสม ตัวเลขพื้นฐานคือ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และ 0 ในขณะที่ตัวเลขผสมจะมีเลข 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19 ซึ่งเราจะเรียกตัวเลขผสมว่า “teen numbers” หรือ “ตัวเลขสิบ” ตัวเลขในภาษาอังกฤษอยู่ในระหว่าง 1-1000 ดังนั้นเราต้องเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนตัวเลขทั้งพื้นฐานและผสมเพื่อใช้ในการสื่อสาร

2. การอ่านและการเขียนตัวเลข 1-20 ในภาษาอังกฤษ

เรามาเริ่มต้นจากตัวเลขพื้นฐานกันก่อน การอ่านและการเขียนตัวเลข 1-20 ในภาษาอังกฤษมีดังนี้:

– 1: one
– 2: two
– 3: three
– 4: four
– 5: five
– 6: six
– 7: seven
– 8: eight
– 9: nine
– 10: ten
– 11: eleven
– 12: twelve
– 13: thirteen
– 14: fourteen
– 15: fifteen
– 16: sixteen
– 17: seventeen
– 18: eighteen
– 19: nineteen
– 20: twenty

เมื่อเราเข้าใจและทำความเข้าใจวิธีการอ่านและเขียนตัวเลขพื้นฐานเหล่านี้ เราสามารถเรียนรู้ตัวเลขที่ยูนิโคด (Unique Codes) มีเพื่อเป็นชื่อเลขค่าพื้นฐาน โดยให้เข้าถึงได้ทุกที่

3. การอ่านและการเขียนตัวเลข 21-50 ในภาษาอังกฤษ

เมื่อได้รู้จักและทำความเข้าใจตัวเลข 1-20 เราสามารถเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนตัวเลข 21-50 ในภาษาอังกฤษได้ดังนี้:

– 21: twenty-one
– 22: twenty-two
– 23: twenty-three
– 24: twenty-four
– 25: twenty-five
– 26: twenty-six
– 27: twenty-seven
– 28: twenty-eight
– 29: twenty-nine
– 30: thirty
– 31: thirty-one
– 32: thirty-two
– 33: thirty-three
– 34: thirty-four
– 35: thirty-five
– 36: thirty-six
– 37: thirty-seven
– 38: thirty-eight
– 39: thirty-nine
– 40: forty
– 41: forty-one
– 42: forty-two
– 43: forty-three
– 44: forty-four
– 45: forty-five
– 46: forty-six
– 47: forty-seven
– 48: forty-eight
– 49: forty-nine
– 50: fifty

การอ่านและการเขียนตัวเลข 21-50 ในภาษาอังกฤษมีความคล้ายคลึงกับวิธีการอ่านและเขียนตัวเลข 1-20 แต่เพิ่มเติมตัวเลขสิบหนึ่ง (eleven), สิบสอง (twelve), สิบสาม (thirteen) ซึ่งเรียกว่า “teen numbers” ในตัวเลขที่มีสิบ เช่น twenty-one, twenty-two, twenty-three เราอ่านตัวเลขแรก (twenty) ตามด้วยคำว่า “hyphen” และตัวเลขที่สอง ดังนั้นเราต้องเรียนรู้และฝึกทักษะในการอ่านและเขียนตัวเลขต่าง ๆ ในตัวเลขสิบ

4. การอ่านและการเขียนตัวเลข 51-100 ในภาษาอังกฤษ

เมื่อได้เรียนรู้และทำความเข้าใจตัวเลข 21-50 เราสามารถเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนตัวเลข 51-100 ในภาษาอังกฤษได้ดังนี้:

– 51: fifty-one
– 52: fifty-two
– 53: fifty-three
– 54: fifty-four
– 55: fifty-five
– 56: fifty-six
– 57: fifty-seven
– 58: fifty-eight
– 59: fifty-nine
– 60: sixty
– 61: sixty-one
– 62: sixty-two
– 63: sixty-three
– 64: sixty-four
– 65: sixty-five
– 66: sixty-six
– 67: sixty-seven
– 68: sixty-eight
– 69: sixty-nine
– 70: seventy
– 71: seventy-one
– 72: seventy-two
– 73: seventy-three
– 74: seventy-four
– 75: seventy-five
– 76: seventy-six
– 77: seventy-seven
– 78: seventy-eight
– 79: seventy-nine
– 80: eighty
– 81: eighty-one
– 82: eighty-two
– 83: eighty-three
– 84: eighty-four
– 85: eighty-five
– 86: eighty-six
– 87: eighty-seven
– 88: eighty-eight
– 89: eighty-nine
– 90: ninety
– 91: ninety-one
– 92: ninety-two
– 93: ninety-three
– 94: ninety-four
– 95: ninety-five
– 96: ninety-six
– 97: ninety-seven
– 98: ninety-eight
– 99: ninety-nine
– 100: one hundred

การอ่านและการเขียนตัวเลข 51-100 ในภาษาอังกฤษคล้ายกับการอ่านหรือเขียนตัวเลข 1-50 แต่มีคำว่า “hyphen” เพิ่มเติม ในตัวเลข 50 (fifty) เราเรียกในลักษณะเดียวกันในตัวเลขอื่น และจะมีคำว่า “one hundred” เพื่อแสดงตัวเลข 100

5. วิธีการเรียนรู้ตัวเลขภาษาอังกฤษจาก 1-100 อย่างมีประสิทธิภาพ

การเรียนรู้และทำความเข้าใจตัวเลขภาษาอังกฤษจาก 1-100 อาจเป็นสิ่งที่ยากเนื่องจากจำนวนมากของตัวเลข ดังนั้นเราต้องใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพ เช่นการทำซ้ำและการฝึกฝนในการอ่านและเขียนตัวเลข

– ส่งเสริมการเรียนรู้โดยการดูแลให้ความสนใจที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นให้เด็กเลือกเล่นเกมส์ที่เรียนรู้ตัวเลข เช่นเกมส์การนับเลข หรือหาเลขที่ซ่อนอยู่
– ให้ผู้เรียนใช้สื่ออื่น ๆ เช่นหนังสือรูปภาพ วีดีโอ หรือแผนผังต่าง ๆ เพื่อให้ภาพของตัวเลขเข้าใจได้ง่ายขึ้น
– ใช้เกมส์และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขในชีวิตประจำวัน เช่นการซื้อของในร้าน การวางแผนเส้นทาง
– ใช้วิธีการแบ่งช่วงของตัวเลข เช

เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000: ค้นหาเลขสำคัญในภาษาอังกฤษและการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ในทุกวันนี้ เราจะพบกับการใช้เลขทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของเรา อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังเรียนรู้ภาษาอังกฤษ หรือต้องการใช้เลขภาษาอังกฤษในการทำเอกสาร เราคงจำเป็นต้องรู้จักเลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ด้วยกัน เพื่อให้มั่นใจในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ในบทความนี้เราจะพาไปเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษตั้งแต่ตัวเลขน้อยที่สุด ถึงตัวเลขใหญ่ที่สุด 1-1000000

1 to 20: เรียนรู้เลขภาษาอังกฤษตั้งแต่ตัวเลขเบสิกจนถึง ยี่สิบ

เลขภาษาอังกฤษที่น่าจดจำในช่วงแรกคือตัวเลขเบสิก 1-10: one, two, three, four, five, six, seven, eight, nine, ten. เมื่อพูดถึงสิบ เราใช้คำว่า ten ก่อนตามด้วยตัวเลขหนึ่งตัว ทำให้สิบเป็น eleven, twelve, thirteen, fourteen, fifteen, sixteen, seventeen, eighteen, nineteen และ twenty เป็นต้นไป

30 to 100: เรียนรู้ตัวเลขดิบก็ใหญ่แล้ววว

เราสามารถสร้างตัวเลขระหว่างเบสิกไปยังจำนวนหนึ่งที่สุดก่อนเวลาได้ด้วยการรวมสิบและเบสิก เช่น twenty-one, twenty-two, thirty, forty, fifty และฯลฯ โดยการเพิ่ม -ty (ถ้าไม่ใช่ ten) ต่อท้ายตัวเลขชุดเหล่านี้ และจะใช้ -teen เมื่อตัวเลขไปถึงหลักหน่วย ทำให้เราได้คำว่า thirty-one, forty-two และ fifty-nine ไม่ใช่ fourty-two

100 to 1000: ไม่แย่งหนักหรอก แต่ซับซ้อนขึ้นในหลักนั้นนี่เอง!

หลังจากที่เรียนเสร็จตัวเลขเบสิกและหลักสิบ เราสังเกตุเป็นประจำว่าเราสามารถสร้างตัวเลขใหญ่ขึ้นได้โดยการใช้หลักสิบหลักเดียวกับหลักหน่วย ซึ่งคำนวณวิธีการดังกล่าวโดยใช้คำว่า -teen ก่อนหลักหน่วย แต่กล่าวไว้ในลักษณะที่เราใช้กันอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น one hundred, two hundred, three hundred, four hundred, five hundred, six hundred, seven hundred, eight hundred, nine hundred, ฯลฯ

หลังจากนั้นเราจะเขียนตัวเลขในหลักพัน หลักหมื่น และหลักแสนโดยการใช้ตัวเลขและหน่วยคำว่า thousand, thousand and ด้วยตนเอง เช่น one thousand, two thousand, three thousand and five hundred, four thousand and eighty-six และ five thousand and twenty

10000 to 1000000: ในหมู่บ้านแห่งแสนตายซ้ำกับหลักหน้า

เมื่อเราประสบกับตัวเลขใหญ่ขึ้นแล้ว เราสามารถค้นหากฎวิธีจัดเรียงของตัวเลขใหญ่กว่าหนึ่งหลักได้ ยกตัวอย่างเช่น ten thousand, twenty thousand, thirty-five thousand, forty-six thousand, fifty thousand, ฯลฯ เราสามารถเขียนแสนโดยการใช้หน้าแต่ละหลักเหมือนที่เรียนรู้มาแล้ว เช่น one hundred thousand, two hundred thousand, three hundred and sixty thousand และฯลฯ

FAQs:
1. เราจะใช้เลขภาษาอังกฤษตั้งแต่ตัวเลขไหนถึงตัวเลขไหนในการเขียนเอกสาร?
การใช้เลขภาษาอังกฤษในการเขียนเอกสารมักจะใช้ตัวเลขอินเท็กซ์ตั้งแต่หนึ่งและดูไกล้เคียงกับพิมพ์แท็บพอร์ตและการเขียนเช็ค หากไม่มีกำหนดเจาะจง ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะใช้เลขหนึ่งหลักในการเขียนเช็ค และเลขโรมันภายในวันที่ 30 ถึง 99 ในการเขียนแท็บพอร์ต ในบางประเทศอื่น ๆ เลขโรมันจะเป็นทางเลือกของพิมพ์แท็บพอร์ตและอื่น ๆ เมื่อมีเลขอาจจะมีเวอร์ชันเต็มของเลขภาษาอังกฤษหลักหน่วยและพิมพ์ดิจิตอลที่รวมอยู่ด้วย

2. ใช่หรือไม่ว่าเราสามารถใช้คำว่า “and” เพื่อแยกหลักหน่วยและหลักร้อยในเลขภาษาอังกฤษ?
ในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร คำว่า “and” จะถูกใช้เพื่อแยกหลักหน่วยกับหลักร้อย เช่น fifty-seven (57) เป็นต้น แต่ในประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือแคนาดา เคาน์เตอร์มีแนวโน้มจะไม่ใช้คำว่า “and” เมื่อเขียนเลขภาษาอังกฤษ

3. เราสามารถใช้ตัวเลขภาษาอังกฤษในการพูดได้หรือไม่?
การอ่านเลขภาษาอังกฤษเป็นอย่างน้อย ผู้คนส่วนใหญ่ทั่วโลกสามารถเข้าใจได้ แต่ในทางปฏิวัติ อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติจริง เรายังมักใช้เลขภาษาภาษาอังกฤษในการพูดในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เช่นเรียกเลขโทรศัพท์ ราคาและเวลา

4. มีข้อกำหนดต่าง ๆ เพิ่มเติมในการใช้เลขภาษาอังกฤษในภาษาไทยหรือไม่?
ในการใช้เลขภาษาอังกฤษในภาษาไทย ไม่มีข้อกำหนดหลายแบบ ส่วนใหญ่เราใช้วิธีการเขียนเลขอังกฤษที่คล้ายคลึงกับภาษาไทย และใช้การตั้งตัว “and” เพื่อแยกหลักหน่วยและหลักสิบ เช่น forty-five (45) เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม เราควรตระหนักว่าความแตกต่างในวิธีการพูดและเขียนเลขภาษาอังกฤษอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดพลาดได้ ดังนั้น ควรใช้รูปแบบที่เป็นที่ยอมรับได้ตามปกติในแต่ละสถานการณ์

เลขภาษาอังกฤษ 0-100 ในภาษาไทย

ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษหนึ่งในเรื่องที่เราต้องเรียนรู้เป็นพื้นฐานคือเลขภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะใช้ในการอ่านหรือการเขียน การระบุเลขอังกฤษอาจจะดูง่ายแต่ทั้งนี้ในภาษาไทยก็มีอยู่ และวันนี้เราจะมาเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 0-100 ในภาษาไทยต่อไป

เลขภาษาอังกฤษ 0-20
เริ่มแรกเราจะมาเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 0-20 ในภาษาไทย

0 – Zero
1 – One
2 – Two
3 – Three
4 – Four
5 – Five
6 – Six
7 – Seven
8 – Eight
9 – Nine
10 – Ten
11 – Eleven
12 – Twelve
13 – Thirteen
14 – Fourteen
15 – Fifteen
16 – Sixteen
17 – Seventeen
18 – Eighteen
19 – Nineteen
20 – Twenty

เลขภาษาอังกฤษ 20-100
ต่อมาเราจะเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 20-100 ในภาษาไทย

20 – Twenty
30 – Thirty
40 – Forty
50 – Fifty
60 – Sixty
70 – Seventy
80 – Eighty
90 – Ninety
100 – One hundred

FAQs เกี่ยวกับเลขภาษาอังกฤษ 0-100 ในภาษาไทย

Q: ฉันจำเลขอังกฤษไม่ได้ทำไงดี?
A: สำหรับคนที่ต้องการจำเลขอังกฤษให้ดีมากที่สุด วิธีการที่ดีที่สุดคือฝึกฝนเป็นประจำ จะได้ไม่ลืม

Q: เลขภาษาอังกฤษ 0-100 มีเท่าไหร่?
A: เลขภาษาอังกฤษ 0-100 มีทั้งหมด 101 จำนวน

Q: เรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ จำเป็นต้องเรียนจำเป็นทุกเลขหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นต้องเรียนจำทั้งหมด แต่การเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษให้เข้าใจตั้งแต่ 0-100 จะช่วยให้เราสามารถใช้ในสถานการณ์ที่ต่างกันได้

Q: เราต้องการใช้เลขภาษาอังกฤษในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการคีย์เลข เราต้องเรียนรู้เลขทั้งหมดเพื่อการใช้งาน?
A: ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทั้งหมด สำหรับเลขที่เราใช้งานบ่อยๆ เช่น 0-9, 10, 20, 30, 40, 50, 60, 70, 80, 90, 100 เพียงพอต่อการใช้งานปรกติแล้ว

Q: การออกเสียงเลขภาษาอังกฤษ 0-100 ดังไง?
A: การออกเสียงเลขภาษาอังกฤษ 0-100 จะตามลำดับเลขภาษาอังกฤษที่ได้เรียนรู้ไว้ ตัวอย่างเช่น One (วัน) , Twenty (ทวนที่) , Forty-Five (ฟอร์ตี-ไฟว์) ฯลฯ

Q: ทำไมเลขภาษาอังกฤษ 11-19 ไม่ได้เรียนเป็น Ten-One, Ten-Two… เหมือนเลขอื่นๆ?
A: เลขภาษาอังกฤษ 11-19 มีความเฉพาะเจาะจงเพราะถูกสร้างขึ้นมาในอดีต แต่สาเหตุหนึ่งที่อาจจะเป็นคำตอบคือสัญญาณเสียงภาษาอังกฤษตั้งแต่ Eleven (อิลเลฟว์น์) , Twelve (ทวนทูล์ฟ) สามารถสะท้อนความต่อเนื่องทางการออกเสียงเราได้

แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และความเจาะจงที่อยู่ในภาษาอังกฤษ เลขภาษาอังกฤษนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่จะต้องเรียนรู้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการนับเลขหรือการอ่านเพื่อเข้าใจบทความต่างๆ ภาษาอังกฤษ

อย่างไรก็ตามการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะมีความสนุกสนานและอำเภอให้แก่ผู้เรียน เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องการสำหรับการสื่อสารในยุคปัจจุบัน

พบ 31 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ภาษา อังกฤษ ตัวเลข 1 100.