Skip to content
Trang chủ » หลักการเติม S ให้กับคำในภาษาอังกฤษ

หลักการเติม S ให้กับคำในภาษาอังกฤษ

ติวสอบ TOEIC ก่อนสอบต้องรู้ วิธีเติม S ตัดช้อยส์ได้เพียบ!

หลักการเติม S

หลักการเติม s ในภาษาไทย

ในภาษาไทย เครื่องหมาย s ถูกใช้เพื่อเพิ่มกันแยกของคำ โดยหักยอดบุรุษ. เครื่องหมาย s นี้มีหลักการการใช้งานที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของคำที่ต้องการบังคับให้เติม s และพฤติกรรมการใช้งานของคำศัพท์เอง ดังนั้น ในบทความนี้จะอธิบายหลักการเติม s ในภาษาไทยและการใช้งานต่าง ๆ รวมถึงตัวอย่างประโยคและคำถามที่มักพบเกี่ยวกับเรื่องนี้

1. ใช้เครื่องหมาย s เพื่อเพิ่มกันแยกของคำ

เครื่องหมาย s ใช้เพื่อบังคับให้เติม s เข้าไปหลังคำที่ต้องการแบ่งกันหรือแยกกันระหว่างเนื่องจากคำว่านาม เช่น หลักศัพท์ สรรพนาม เป็นต้น ตัวอย่างเช่น

– หนังสือ (book) + s = หนังสือ 2 เล่ม (books)

2. การเติม s หลังสรรพนามบุรุษตัวเองและชื่อเฉพาะ

เมื่อใช้สรรพนามบุรุษตัวเองและชื่อเฉพาะ เช่น เรา (we) เธอ (you) ชื่อของคน ที่ 10 รวมถึงนามสมมุติที่สรุปออกมาจากความหมายของคำ เช่น ความรู้ (knowledge) เสมือนกับคำเตือน (warning) ตัวอย่างเช่น

– เรา (we) + s = เรา 2 คน (we)
– ความรู้ (knowledge) + s = ความรู้ทั้งปลายทั้งใจ (knowledge)

3. การเติม s หลังกริยาในกรณีที่กริยาเป็นรูปช่องที่ 3 บุรุษสิรันดร

เมื่อใช้กริยาในรูปช่องที่ 3 บุรุษสิรันดร ซึ่งจะมี s หลังแล้ว เราไม่ต้องเติม s ใหม่ หากต้องการติดบทเสร็จ (บทที่ 6 เสร็จ) ตัวอย่างเช่น

– เขาร้อง (he sings) + s = เขาร้องเสร็จ (he sings)
– พ่อของฉันอ่านหนังสือ (My father reads books) + s = พ่อของฉันอ่านหนังสือเสร็จ (My father reads books)

4. การเติม s หลังกริยาที่ใช้กับกิริยาสมการนาม

เมื่อใช้กิริยาที่เป็นสมการนาม เช่น ทำ (do), เตรียม (prepare) หรือ เงินเดือน (pay) กับนามสมมุติเช่น งาน (work) ไอศกรีม (ice cream) หรือ ลูกบอล (ball) เราจะไม่ต้องเติม s หลังคำกริยา เนื่องจากเราเพียงแค่ใส่นามหลังกลายเป็นกิริยาที่เป็นสมการนาม ตัวอย่างเช่น

– เขาทำงาน (he works) + work = เขาทำงานเงินเดือน (he works)
– เราชอบไอศกรีม (we like ice cream) + ice cream = เราชอบไอศกรีมลูกบอล (we like ice cream)

5. การเติม s หลังกริยาที่ใช้กับบุคคลทั่วไปในรูปการคำนึงถึง

เมื่อใช้กริยากับบุคคลทั่วไปที่อยู่ในรูปการคำนึงถึง เราจะต้องเติม s หลังกริยา ดังตัวอย่าง

– เขาชอบหนังสือ (he likes books) + s = เขาชอบหนังสือ (he likes books)
– พ่อของฉันดื่มกาแฟ (my father drinks coffee) + s = พ่อของฉันดื่มกาแฟ (my father drinks coffee)

6. การเติม s หลังกริยาที่ใช้กับผู้เล่าเรื่องในรูปการคำนึงถึง

เมื่อใช้กริยากับผู้เล่าเรื่องที่อยู่ในรูปการคำนึงถึง เราจะต้องเติม s หลังกริยา ตัวอย่างเช่น

– ผมกินอาหาร (I eat food) + s = ผมกินอาหาร (I eat food)
– เธอดื่มน้ำ (you drink water) + s = เธอดื่มน้ำ (you drink water)

7. การเติม s หลังคำใช้เป็นสรรพนามชี้บุคคล

แต่ละคำใช้เป็นสรรพนามชี้บุคคล เช่น เขา (he), เธอ (she), พวกเขา (they) จะต้องเติม s หลังหน่วยนับของคำเพื่อบอกว่ามีจำนวนมากกว่า 1 ชิ้น เช่น

– เขาชอบกินปลา (he likes fish) + s = เขาชอบกินปลา (he likes fish)
– เธอชอบเล่นกีฬา (she likes sports) + s = เธอชอบเล่นกีฬา (she likes sports)

8. การเติม s หลังคำประกอบศัพท์ที่เป็นคำบุหรี่

เมื่อใช้คำประกอบที่เป็นคำบุหรี่ เช่น หลักฐาน (evidence), การแปล (translation), หลักสูตร (curriculum) เราจะต้องเติม s เพื่อแสดงว่ามีจำนวนมากที่เป็นอยู่ เช่น

– มีหลักฐานที่ชัดเจน (there is clear evidence) + s = มีหลักฐานที่ชัดเจน (there is clear evidence)
– การแปลภาษา (translation) + s = การแปลภาษา (translation)

9. ทฤษฎีการเติม s ในรูปคำบอกลักษณะสถานะ

ในกรณีที่ได้เรียนรู้คำที่เป็นคำบอกรูปของสถานะ หรือคุณลักษณะของสิ่งต่าง ๆ จะเห็นว่าเราต้องเติม s หลังคำนี้ ขึ้นอยู่กับหนึ่งประเภทของคำ คือ คำที่ลงท้ายด้วย s es ดังตัวอย่าง

– เติม s es หลังคำนาม – เมื่อคำนามลงท้ายด้วย s, x, z, ch, sh – ตัวอย่างเช่น อาจารย์ (teacher) + s = อาจารย์ (teachers) นักเรียน (student) + s = นักเรียน (students)
– เติม s es หลังประธานเอกพจน์ – สำหรับคำที่เป็นเอกพจน์และลงท้ายด้วย s(es), o(es) และ sh(es) – ตัวอย่างเช่น ต้นไม้ (tree) + s = ต้นไม้ (trees) สุนัข (dog) + s = สุนัข (dogs)
– เติม s es หลังกริยา (ในรูปช่วงที่ 3 บุรุษสิรันดร) – คำกริยาที่อยู่ในรูปช่วงที่ 3 บุรุษสิรันดร ซึ่งเป็นคำกริยาที่มีการเติม s หลังแล้ว – ตัวอย่างเช่น ร้องเพลง (sing) + s = ร้องเพลง (sings) เที่ยว (travel) + s = เที่ยว (travels)
– เติม s es หลังกริยาในประโยค – ในกรณีที่มีกริยาอยู่ในประโยค หากกริยาตั้งอยู่ในประโยคที่ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว จะต้องเติม s หลังกริยา – ตัวอย่างเช่น พวกเขาอ่านหนังสือ (They read books) + s = พวกเขาอ่านหนังสือ (They read books)
– เติม s es หลังกริยาในประโยคที่ present simple tense – ในกรณีที่ใช้กับประโยคใน present simple tense ช่วงที่กริยาตั้งอยู่กับบุคคลที่สามนิยม จะต้องเติม s es หลังกริยา – ตัวอย่างเช่น เรากินผลไม้ (We eat fruit) + s = เรากินผลไม้ (We eat fruit)
– หลักการเติม ing – ในกรณีที่ใช้กริยาในรูปการ ters, ประโยค passive, ศัพท์ -ing และกริยาเป็น -ing จะต้องเติม s es หลังกริยา – ต

ติวสอบ Toeic ก่อนสอบต้องรู้ วิธีเติม S ตัดช้อยส์ได้เพียบ!

คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: หลักการเติม s หลักการเติม s es คํานาม, การเติม s es ประธาน, เอกพจน์ เติม s, ประธานเอกพจน์ กริยาเติมs, การเติม s es ในประโยค, การเติม s es ในประโยค present simple tense, หลักการเติม ing, Fly เติม s หรือ es

รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หลักการเติม s

ติวสอบ TOEIC ก่อนสอบต้องรู้ วิธีเติม S ตัดช้อยส์ได้เพียบ!
ติวสอบ TOEIC ก่อนสอบต้องรู้ วิธีเติม S ตัดช้อยส์ได้เพียบ!

หมวดหมู่: Top 58 หลักการเติม S

หลักการเติม S มีอะไรบ้าง

หลักการเติม s มีอะไรบ้าง: คำถามที่พบบ่อย

หลักการเติม s เป็นหลักการทางไวยากรณ์ในภาษาไทยที่มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากการใช้ s อย่างถูกต้องจะช่วยให้ประโยคในภาษาไทยดูเป็นระเบียบและถูกต้องมากขึ้น ข้อดีหลักๆของการเติม s คือช่วยป้องกันความกังวลหรือสับสนในการอ่านและเขียนต่างๆในภาษาไทย ในบทความนี้เราจะพิจารณาหลักการเติม s ในภาษาไทยอย่างละเอียดกว่าที่เคยเคียงถึงมาก่อน โดยรวมถึงรูปแบบที่ใช้เติม s ในคำกริยา นาเสนอแนวคิดต่างๆในแต่ละกรณี และระบุคำถามที่พบบ่อยที่ผู้ที่เริ่มต้นเรียนรู้การใช้ภาษาไทยอาจพบเจอบ่อย ในส่วนท้ายของบทความเราจะมีส่วนคำถามที่พบบ่อย (FAQs) เพื่อความคิดสรุปที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจหลักการเติม s ในภาษาไทยอย่างเป็นระเบียบแนะนำให้

หลักการเติม s ในคำกริยา:
เติม s ในคำกริยาในภาษาไทยนั้นมีหลักฐานทางไวยากรณ์ที่ต้องทำความเข้าใจเพื่ออ่านและเขียนภาษาไทยระดับมืออาชีพได้อย่างถูกต้อง โดยคำกริยาจะเติม s ต่อท้ายคำกริยาในบุคคลของกรรมบางกรณี ซึ่งตามหลักภาษาไทยเรียกส่วนที่เติม s นี้ว่า คำกริยาแบบหรรษา (การเติม s ในคำกริยาที่มีบุคคลบางกรณีก็จะมีรูปแบบแปลกๆ ที่ต้องคำนึงถึง) นอกจากนี้ ยังมีหลักการเติม s ในคำกริยากลุ่มอื่นๆในภาษาไทยที่ต้องสังเกตอีกด้วย

1. การเติม s ในคำกริยาแบบหรรษา (Regular Verbs)
ในกรณีของคำกริยาแบบหรรษาที่เติม s ในบุคคลของกรรม คำกริยาจะเติม s หรือ es ต่อท้ายคำกริยา ตามความผันผวนและเงื่อนไขต่างๆที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น:
– I walk to school every day. (ฉันเดินไปโรงเรียนทุกวัน)
– He walks to work. (เขาเดินไปทำงาน)

2. การเติม s ในคำกริยาแบบไม่หรรษา (Irregular Verbs)
กรณีของคำกริยาที่มีรูปแบบแปลกๆ จะไม่สามารถเติม s หรือ es ได้ตามปกติ ต้องเรียนรู้รูปแบบต่างๆของคำกริยาดังกล่าว เช่น:
– I go to the supermarket. (ฉันไปซื้อของในห้างสรรพสินค้า)
– He goes to the park. (เขาไปเที่ยวสวนสาธารณะ)

3. การเติม s ในคำกริยากรวย (Auxiliary Verbs)
ในกรณีของคำกริยากรวย เช่น be, have, do และ modal verbs นั้น จะไม่มีการเติม s ในบุคคลของกรรม เป็นที่ประทับใจว่าจะเติม s ในกริยาเหล่านี้ได้ตามปกติ ตัวอย่างเช่น:
– She is a doctor. (เธอเป็นหมอ)
– They have a car. (พวกเขามีรถ)
– I do my homework in the evening. (ฉันทำการบ้านในช่วงเย็น)

คำถามที่พบบ่อย:
1. เติม s ในคำกริยาแบบหรรษาในอดีตกี่รูปและในกรณีใดบ้าง
คำกริยาแบบหรรษาในอดีตมีรูปแบบเพียงหนึ่งรูป และมีเงื่อนไขที่เติม s เท่านั้นที่จะต้องสังเกต ซึ่งคือกรณีเมื่อกรรมเป็นบุคคลสามเท่านั้น ตัวอย่างเช่น:
– He helps his mother with housework. (เขาช่วยแม่ทำงานบ้าน)
– She loves to sing. (เธอชอบร้องเพลง)

2. ทำไมบางคำที่เป็นประเภทคำกริยาแบบแปลกๆ ไม่สามารถเติม s ได้
คำที่ไม่สามารถเติม s ได้นั้นเกิดจากลักษณะเสียงของคำกริยาที่ถูกพิจารณา หรือช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องมีการศึกษาความผันผวนและรูปแบบของคำกริยานั้นๆ ตัวอย่างเช่น:
– I eat rice every day. (ฉันกินข้าวทุกวัน)
– He buys a new car. (เขาซื้อรถใหม่)

3. ในกรณีไหนที่ไม่ต้องเติม s ในคำกริยา
การใช้งานคำกริยาที่ไม่ต้องเติม s นั้นมีหลายกรณี อาทิเช่นเมื่อคำกริยามีเวลาอดีตหรือบุคคลในกรรมที่ไม่ใช่บุคคลสาม เพียงเพียงแค่นี้เท่านั้น ตัวอย่างเช่น:
– I walked to school. (ฉันเดินไปโรงเรียน)
– He walked to work. (เขาเดินไปทำงาน)

4. ในกรณีของคำกริยากรวย เราต้องเติม s หรือ es ต่อท้ายการกริยาหรือไม่
ในกรณีของคำกริยากรวย เราไม่ต้องเติม s หรือ es ต่อท้ายคำกริยาเลย เพราะเป็นเงื่อนไขทางไวยากรณ์ที่สามารถเติมได้เฉพาะกรณีของบุคคลกับกรรมเท่านั้น ตัวอย่างเช่น:
– She is cooking dinner. (เธอกำลังทำอาหารเย็นอยู่)
– They have finished their homework. (พวกเขาได้เสร็จการบ้านแล้ว)

ในสรุปหลักการเติม s ในภาษาไทยเป็นหลักการทางไวยากรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ประโยคในภาษาไทยดูเป็นระเบียบและถูกต้อง สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเรียนรู้การใช้ภาษาไทยอาจมีคำถามที่ขัดแย้งหรือสงสัยเกี่ยวกับการเติม s ในคำกริยา คำถามที่พบบ่อยทั้งหมดที่ได้ถูกพูดถึงในบทความนี้เป็นสรุปเฉพาะ เพื่อที่จะช่วยให้ผู้อ่านที่สามารถเข้าใจหลักการเติม s ในภาษาไทยได้อย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ กรุณาอ่านและศึกษาบทความนี้ทุกครั้งที่มีความจำเป็น

การเติม S Es ใช้ตอนไหน

การเติม s และ es ในภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่คนหลายคนอาจถูกสับสนได้ง่าย เนื่องจากอยากใช้คำศัพท์หลายๆ คำในประโยคเดียวกัน แต่ต้องการให้ประโยคเป็นประโยคพหูพจน์ ถ้าคุณก็อาจสงสัยอยู่บ้างว่า การเติม s หรือ es ในภาษาอังกฤษนั้นควรใช้ตอนไหน ใช้ทำอะไร จากบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจในเรื่องนี้แบบละเอียด รวมถึงให้คำถามที่พบบ่อยด้วยนะครับ

ในภาษาอังกฤษ การเติม s หรือ es ในคำกริยา (verb) มีประโยชน์ในการแสดงคำกริยาในรูปที่เป็นพหูพจน์ (plural form) โดยทั่วไปแล้วกฎทั่วไปของการเติม s ในคำกริยานั้นมีดังนี้

1. เติม s ในคำกริยาที่ใช้กับบุคคลที่ 3 ในประโยคสัญลักษณ์ (simple present tense)
เราใช้กฎนี้เมื่อเราอยู่ในเงื่อนไขดังต่อไปนี้
– กริยาใช้กับบุคคลที่ 3 (he, she, it) เช่น He sleeps a lot. (เขานอนหลับมาก)
– กริยาใช้กับสิ่งของ (things) เช่น The flower smells good. (ดอกไม้มีกลิ่นหอม)

2. เติม es ในคำกริยาที่ลงท้ายด้วย s, sh, ch, x, เครื่องหมายเจ้ง (o) และเครื่องหมายเฉลี่ย (z) ในประโยคสัญลักษณ์ (simple present tense)
เราใช้กฎนี้เมื่อเราอยู่ในเงื่อนไขดังต่อไปนี้
– กริยาใช้กับบุคคลที่ 3 (he, she, it) เช่น She passes the test. (เธอสอบผ่าน)
– กริยาใช้กับสิ่งของ (things) เช่น The dog barks loudly. (สุนัขเห่าดัง)

นอกจากกฎทั่วไปนี้แล้ว เรายังมีบางกฎเพิ่มเติมในกรณีและต่อไปนี้

1. เติม es ในกริยาที่ลงท้ายด้วย o แล้วมีคำนำหน้า (consonant + o) ในประโยคสัญลักษณ์ (simple present tense)
นอกจากเราต้องเติม es แล้วยังต้องมีการเปลี่ยน o เป็น e เช่น
– go กลายเป็น goes เช่น She goes to school every day. (เธอไปโรงเรียนทุกวัน)
– do กลายเป็น does เช่น He does his homework. (เขาทำการบ้าน)
– have กลายเป็น has เช่น She has a car. (เธอมีรถ)

2. เติม s ในกริยาที่ลงท้ายด้วย y และมีตัวนำหน้าเป็นตัวสะกดสั้น (short vowel sound) ในประโยคสัญลักษณ์ (simple present tense)
เราใช้กฎนี้เมื่อเราอยู่ในเงื่อนไขดังต่อไปนี้
– กริยาใช้กับบุคคลที่ 3 (he, she, it) เช่น He tries his best. (เขาพยายามที่สุด)
– กริยาใช้กับสิ่งของ (things) เช่น The pen writes smoothly. (ปากกาเขียนได้อย่างราบรื่น)
ตัวอย่างเพิ่มเติม:
– play ไม่มี es เพราะ a มีเสียงสระรัสเสียงยาว /eɪ/ เช่น He plays basketball every evening. (เขาเล่นบาสเกตบอลทุกเย็น)
– say ไม่มี es เพราะ a มีเสียงสระรัสเสียงยาว /eɪ/ เช่น She says hello to everyone. (เธอทักทายทุกคน)

หวังว่าคุณจะทำความเข้าใจภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นกับกฎการเติม s และes ในคำกริยาจากบทความนี้นะครับ
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม คำถามที่พบบ่อยหรือสงสัยอะไรโปรดดูในส่วน FAQ ข้างล่าง

FAQs

1. คำว่า “is” เป็นคำกริยาใช่หรือไม่?
ใช่ คำว่า “is” เป็นคำกริยาเติมที่ใช้กับบุคคลที่ 3 ในประโยคสัญลักษณ์ เช่น He is a doctor. (เขาเป็นแพทย์)

2. คำว่า “does” เป็นคำกริยาใช่หรือไม่?
ใช่ คำว่า “does” เป็นคำกริยาเติมที่ใช้กับบุคคลที่ 3 ในประโยคสัญลักษณ์ เช่น What does he do? (เขาทำอะไร)

3. มีกฎพิเศษในการเติม s หรือ es ที่ต้องรู้มากกว่านี้ไหม?
ยังมีกฎเพิ่มเติมอื่นๆ ในกรณีของคำกริยาที่มีรูปแบบพิเศษ เช่น have → has, do → does, go → goes ซึ่งสามารถศึกษาและฝึกใช้ได้จากแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษต่างๆ ออนไลน์

4. ถ้ายังใช้ต้องการใช้ตรวจสอบคัมบริขุในการใช้คำกริยา ควรทำอย่างไร?
การฝึกใช้คำกริยาให้เหมาะสมคือวิธีที่ดีที่สุดในการศึกษาภาษาอังกฤษ สามารถฝึกตรวจสอบประโยคที่น่าสนใจ ทำความเข้าใจกฎและรูปแบบต่างๆ ในสื่อต่างๆ เช่น หนังสือ เว็บไซต์ โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการจัดการศึกษาภาษา

วิธีนี้อาจช่วยให้คุณฝึกได้ดีขึ้นในการใช้คำกริยาภาษาอังกฤษ อย่าลืมฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาอังกฤษนะครับ

ดูเพิ่มเติมที่นี่: phauthuatdoncam.net

หลักการเติม S Es คํานาม

หลักการเติม s, es คำนามเป็นเทคนิคหนึ่งในการใช้ภาษาอังกฤษที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้เราสามารถใช้คำนามให้ถูกต้องตามประสิทธิภาพอย่างที่ควร คำนามในภาษาอังกฤษมีรูปและรูปแบบที่หลากหลาย ความถูกต้องและความเหมาะสมในการใช้รูปแบบของคำนามต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจเสมอ เพราะหากเราใช้รูปแบบของคำนามไม่ถูกต้อง เราอาจเข้าใจผิดว่าคำนามนั้นเป็นสถานนิยมหรือกริยาได้ ดังนั้น การเติม s, es เข้าไปในคำนามว่าเมื่อไรก็ตาม จะเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรรู้จักและเรียนรู้ตลอดเวลา

หลักการเติม s, es ในคำนามเป็นที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลาย กฎเกณฑ์หลักในการตัดสินใจดังกล่าวคือ ในกรณีที่คำนามจำนวนใดจำนวนหนึ่ง เราใช้รูปทั่วไปของคำนาม โดยเพียงแค่เติม s เข้าไปตรงหลังคำนามเท่านั้น เช่น คำว่า “cat” เป็นคำนามในรูปทั่วไปของคำศัพท์ หากเราต้องการอธิบายว่าเรามีแมวหลายตัว เราเพียงแค่เติม s เข้าไปตรงหลังคำนามและเปลี่ยนคำนามไปเป็น “cats”

ในกรณีที่คำนามมีกฏการเติมรูปที่มุ่งหมายได้อย่างอื่น เราจะต้องปฏิบัติตามกฏเหล่านั้นให้ถูกต้องตามข้อกำหนด เช่น สำหรับบางคำนามที่ส่งเสริมให้เราเติม es เข้าไปตรงหลังคำนาม เราควรทราบว่า รูปทั้งหมดเมื่อใช้กับคำนามจำนวนใกรมเอียง หรือ uncountable nouns เช่น “bus” หรือ “money” จำเป็นต้องใช้รูปร่างดังกล่าวเท่านั้น ดังนั้น หากเราต้องการอธิบายว่าเรามีรถบัสหลายคัน เราต้องเติม es เข้าไปตรงหลังคำนามและเปลี่ยนคำนามไปเป็น “buses” เพราะ “bus” เป็นคำนามจำนวนไม่นับจำนวนตัว แต่ถ้าคำนามมีกฏที่กำหนดให้ใช้ s เช่น “pen” เราก็ใช้รูปทั่วไปของคำนามเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องเติม es หรือเปลี่ยนรูปอีก เราอาจว่าเรามีปากกาหลายอัน และใช้คำว่า “pens”

นอกจากนี้ เรายังมีรายการคำนามที่มีกฏการตัดสินใจเติม s, es ตามรูปแบบอื่น ๆ นอกเหนือจากกรณีที่กล่าวมาข้างต้น บางคำนามที่ลงท้ายด้วย /s/ , /ss/ , /sh/ , /ch/ , /x/ และกรณีอื่น ๆ ยังมีกฏเฉพาะในการใช้รูปแบบของคำนามนั้น ๆ ดังนั้น ในการใช้ภาษาอังกฤษเราควรระมัดระวังเมื่อเราต้องการใช้คำนามในกรณีเหล่านี้ เพื่อให้เราใช้รูปร่างของคำนามได้ถูกต้อง เช่น ในกรณีของคำว่า “class” เมื่อเราต้องการลงคำนามว่าเรามีห้องเรียนหลายห้อง เราต้องเติม es ช่วงตรงกลางคำควบลงไปตรงหลังคำนามและเปลี่ยนเป็น “classes”

FAQs

1. ทำไมการเติม s, es ในคำนามถึงสำคัญอย่างยิ่งในภาษาอังกฤษ?
การเติม s, es ในคำนามเป็นเทคนิคที่สำคัญเพื่อให้เราใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง ถ้าเราใช้รูปทั่วไปของคำนามในทุกกรณี อาจทำให้ผิดความหมายของประโยคและสร้างความสับสนให้กับผู้ฟังหรือผู้อ่าน ดังนั้น เราควรรู้จักหลักการเติม s, es ในคำนามเพื่อใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง

2. ฉันควรจะใช้ s หรือ es ในคำนามที่มี “s” เสียงเสีย หรือกฏการแบ่งสรรค์เดียวกันใช่ไหม?
ในกรณีที่คำนามลงท้ายด้วยเสียง /s/ , /ss/ , /sh/ , /ch/ , /x/ หรือกรณีอื่น ๆ ควรใช้รูปทับศัพท์ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้คำนามเป็นรูปทั้งหมด

3. ทำไมบางคำนามแต่ละคนใช้รูปแบบต่างกันไป?
บางคำนามอาจมีกฏการเติม s, es ที่เฉพาะเจาะจงตามคำนามนั้น ๆ ในทางกลับกัน ขึ้นอยู่กับกฏการใช้รูปแบบที่กำหนดโดยเกษตรกรรมศาสตร์ภาษา ดังนั้น เพื่อให้การใช้ภาษาอังกฤษของคุณถูกต้อง ควรศึกษากฏการเติม s, es ในคำนามเหล่านั้นอย่างถี่ถ้วน

4. คำว่า “news” เป็นคำนามจำนวนอะไร?
คำว่า “news” เป็นคำนามที่อยู่ในรูปเฉพาะแต่หมายถึงคำนามที่ไม่สามารถนับสินได้เพียงใด เราไม่สามารถใช้ s หรือ es ในคำนามช่วงตรงหลัง “news” ได้

ในสรุป หลักการเติม s, es ในคำนามเป็นเทคนิคที่สำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง การเติม s, es ในคำนามแต่ละคำมีกฏการเติมที่มุ่งหมายให้อัตโนมัติทั้งในกรณีรูปทั่วไปและรูปแบบพิเศษ ผู้ที่สนใจเรื่องนี้ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฏและตัวอย่างที่แตกต่างกันได้เพื่อให้ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง แท้จริงแล้ว เราสามารถฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษได้อีกด้วยเมื่อรู้จักและเข้าใจหลักการเติม s, es ในคำนามเหล่านี้ได้

การเติม S Es ประธาน

การเติม s หรือ es กับคำนามแบบประธานเป็นหัวเรื่องที่สำคัญในภาษาอังกฤษ การเติม s หรือ es เป็นการแสดงผลของการเปลี่ยนแปลงในประธานเมื่ออยู่ในรูปของบุคคลที่ 3 ใน Present Simple Tense การเติม s หรือ es นี้เป็นข้อกำหนดที่สำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อให้ประโยคมีความสมบูรณ์ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทราบวิธีการเติม s หรือ es กับคำนามประธานอย่างถูกต้องเพื่อให้สื่อความหมายที่ถูกต้องและเข้าใจได้ง่าย

ใน Present Simple Tense ในกรณีที่ประธานเป็นบุคคลที่ 3 แบบเอกรรม เช่น he, she, it จะต้องมีการเติม s หรือ es หลังประธานเพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงในกริยา ซึ่งการเติม s หรือ es นี้เป็นวิธีการที่เราจำเป็นต้องทราบในการใช้ Present Simple Tense อย่างถูกต้อง ดังนั้น เรามาดูกันว่าการเติม s หรือ es กับประธานแต่ละตัวในภาษาอังกฤษเป็นอย่างไร

การเติม s หรือ es ในภาษาอังกฤษมีกฎเฉพาะ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของประธาน โดยส่วนใหญ่มีกลไกการเติมในลักษณะเดียวกัน นั่นคือ การเติม s หลังประธาน ที่ประกอบด้วยพยางค์ที่ 1 (ของประธาน) เป็นพยัญชนะ และพยางค์ที่ 2-3 (ของประธาน) เป็นสระ ตัวอย่างเช่น

1. เติม s หลังประธานที่ตัวแรกเป็นพยางค์ที่ 1 (ของประธาน) เป็นพยัญชนะ และพยางค์ที่ 2-3 (ของประธาน) เป็นสระ
– Wash → washes
– Fix → fixes
– Teach → teaches

2. เติม s หลังประธานที่ตัวแรกเป็นพยางค์ที่ 1 (ของประธาน) เป็นพยัญชนะ และพยางค์ที่ 2-3 (ของประธาน) เป็นพยัญชนะ
– Wish → wishes
– Watch → watches
– Brush → brushes

3. เติม es หลังประธานที่คล้ายกับคำที่ลงท้ายด้วย s, sh, ch, x หรือ o และครอบถวนด้วยคำที่สุดท้ายด้วย e
– Kiss → kisses
– Wash → washes
– Teach → teaches

4. เติม es หลังประธานที่ลงท้ายด้วย y และตัวก่อนหน้าประธานเป็นพยัญชนะ
– Study → studies
– Carry → carries
– Try → tries

5. เติม es หลังประธานที่ลงท้ายด้วย y และตัวก่อนหน้าประธานเป็นสระ
– Play → plays
– Stay → stays
– Enjoy → enjoys

ภายใต้กฎข้างต้น แต่ละตัวอย่างจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการเติม s หรือ es กับคำนามประธาน เราควรฝึกฝนการใช้กฎเหล่านี้อย่างมาก เพื่อให้สื่อความหมายที่ถูกต้องและเข้าใจได้ง่ายกว่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q1: ทำไมทุกๆ ตัวอย่างในข้อ 4 และ 5 ถึงใช้ es แทน s หลังจากตัวประธาน y?
A1: การใช้ es แทน s เมื่อประธานลงท้ายด้วย y เกิดจากการป้องกันการสลับเสียงของ y เป็น i เพื่อให้เสียงที่ถูกต้องและออกเสียงได้ง่ายขึ้น

Q2: ทำไมบางคำนามไม่ต้องใช้ s หรือ es หลังจากประธานเป็นคนที่ 3?
A2: การใช้ s หรือ es หลังจากประธานเป็นคนที่ 3 เป็นกฎที่มีข้อยกเว้น มันด้วยเหตุผลทางไวยากรณ์ที่ซับซ้อน ในบางกรณี คำว่าชื่อเธอดูเหมือนรูปเสมือนเป็นคนที่ 3 แต่กลับเป็นคนที่ 1 เท่านั้น เช่น
– My sister likes to read books. (ไม่ใช่ “My sister like to read books.”)

Q3: ฉันจำเป็นต้องใช้การเติม s หรือ es ตลอดเวลาใน Present Simple Tense หรือไม่?
A3: ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เติม s หรือ es ในทุกๆ กรณี นอกจากกรณีที่ประธานเป็นบุคคลที่ 3 (he, she, it) เท่านั้นที่จำเป็นต้องใช้การเติมเพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงในกริยา

ในสรุป การเติม s หรือ es กับคำนามประธานในภาษาอังกฤษเป็นข้อกำหนดที่สำคัญในการใช้ Present Simple Tense อย่างถูกต้อง การเรียนรู้กฎและการใช้งานในแต่ละกรณีจะช่วยให้เราสื่อความหมายที่ถูกต้องและเข้าใจได้ง่ายกว่า ฝึกการใช้กฎเหล่านี้อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการใช้ภาษาอังกฤษได้นักเชี่ยวชาญ

มี 43 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หลักการเติม s.

การเติม S ที่ท้ายคำ | Yamaut1823
การเติม S ที่ท้ายคำ | Yamaut1823
หลักการเติม S,Es ในภาษาอังกฤษ. English หลักการเติม S,Es | By Chayanon Ken  Santhatsanachok | Medium
หลักการเติม S,Es ในภาษาอังกฤษ. English หลักการเติม S,Es | By Chayanon Ken Santhatsanachok | Medium
English 4/1 เฉลยใบงานเรื่องการเติม S, Es, Ies - Youtube
English 4/1 เฉลยใบงานเรื่องการเติม S, Es, Ies – Youtube
การเติม S, Es ในภาษาอังกฤษ รับรองหายงง ตอนที่ 2
การเติม S, Es ในภาษาอังกฤษ รับรองหายงง ตอนที่ 2
Adding “S,Es” Song (สามัคคีเติม S,Es) 🎶 - Inskru
Adding “S,Es” Song (สามัคคีเติม S,Es) 🎶 – Inskru
Present Simple Tense (เติม S Es ยังไงที่ Verb) ประโยคบอกเล่า - Youtube
Present Simple Tense (เติม S Es ยังไงที่ Verb) ประโยคบอกเล่า – Youtube
บทสรุป การสะกดคำที่ลงท้ายด้วย S/-Es ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย – Tuemaster  เรียนออนไลน์ ม.ปลาย
บทสรุป การสะกดคำที่ลงท้ายด้วย S/-Es ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย – Tuemaster เรียนออนไลน์ ม.ปลาย
Of กับ 'S ใช้อย่างไร (ตอนที่ 2)
Of กับ ‘S ใช้อย่างไร (ตอนที่ 2)
การเติม-S-Es-คำนาม Interactive Worksheet
การเติม-S-Es-คำนาม Interactive Worksheet
Kru Husna English ] หลักการเติม S หลังกริยา สั้นๆง่ายๆฉบับครูพี่ณา
Kru Husna English ] หลักการเติม S หลังกริยา สั้นๆง่ายๆฉบับครูพี่ณา
หลักการเติม S และ Es หลังคำกริยา พร้อมตัวอย่าง | Meowdemy
หลักการเติม S และ Es หลังคำกริยา พร้อมตัวอย่าง | Meowdemy
การเติม S Es Worksheet
การเติม S Es Worksheet
3.1 เติม S หลังคำกริยาปกติทั่วๆ ไป – Presentsimpletensebymook
3.1 เติม S หลังคำกริยาปกติทั่วๆ ไป – Presentsimpletensebymook
English Camp : Developer Skill : Zero Day | By Pakawat Mange | Medium
English Camp : Developer Skill : Zero Day | By Pakawat Mange | Medium
ภาษาอังกฤษ: การเติม S ที่ท้ายคำ
ภาษาอังกฤษ: การเติม S ที่ท้ายคำ
หลักการเติม S Es คํานาม กฎการเติม S เพื่อเปลี่ยนเอกพจน์ เป็นพหูพจน์  ทำได้ดังนี้ - ภาษาอังกฤษออนไลน์
หลักการเติม S Es คํานาม กฎการเติม S เพื่อเปลี่ยนเอกพจน์ เป็นพหูพจน์ ทำได้ดังนี้ – ภาษาอังกฤษออนไลน์
หลักการเติม S | Pdf
หลักการเติม S | Pdf
หลักการเติม -Ing ท้ายคำกริยา | พยางค์
หลักการเติม -Ing ท้ายคำกริยา | พยางค์
หลักการเติม S | Pdf
หลักการเติม S | Pdf
Present Simple Tense
Present Simple Tense
เติม S หรือ Es ท้ายกริยา ใน Present Simple Tense ง่ายจัง - Youtube
เติม S หรือ Es ท้ายกริยา ใน Present Simple Tense ง่ายจัง – Youtube
Present Simple Online Exercise For 4-6
Present Simple Online Exercise For 4-6
หลักการใช้ Present Simple Tense [ 2 ข้อ จำให้แม่น] ปัจจุบันธรรมดา  ใช้บ่อยสุดเลยอันนี้ - ภาษาอังกฤษออนไลน์
หลักการใช้ Present Simple Tense [ 2 ข้อ จำให้แม่น] ปัจจุบันธรรมดา ใช้บ่อยสุดเลยอันนี้ – ภาษาอังกฤษออนไลน์
Pdf) การเติม S Es | Wimonwan Modkhan - Academia.Edu
Pdf) การเติม S Es | Wimonwan Modkhan – Academia.Edu
คำนามภาษาอังกฤษ เติม S, Es ดูยังไง? - Eng A Wink
คำนามภาษาอังกฤษ เติม S, Es ดูยังไง? – Eng A Wink
การเตมS Es - ทรัพยากรการสอน
การเตมS Es – ทรัพยากรการสอน
วิชาภาษาอังกฤษ ป.3 (3,4,5,6) Present Simple Tense เฉลยแบบฝึกหัดการเติม S/Es  ท้ายคำกริยา - Youtube
วิชาภาษาอังกฤษ ป.3 (3,4,5,6) Present Simple Tense เฉลยแบบฝึกหัดการเติม S/Es ท้ายคำกริยา – Youtube
หลักการเติม Ed ท้ายคำกริยาคืออะไรกัน การเติมง่ายๆ แต่มันก็หลายแบบนะจ๊ะ -  ภาษาอังกฤษออนไลน์
หลักการเติม Ed ท้ายคำกริยาคืออะไรกัน การเติมง่ายๆ แต่มันก็หลายแบบนะจ๊ะ – ภาษาอังกฤษออนไลน์
การเติม S ที่ท้ายคำ | Yamaut1823
การเติม S ที่ท้ายคำ | Yamaut1823
หลักการเติม S หรือ Es เปลี่ยน เอกพจน์ ให้เป็น พหูพจน์ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
หลักการเติม S หรือ Es เปลี่ยน เอกพจน์ ให้เป็น พหูพจน์ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
Simple Ten Worksheet
Simple Ten Worksheet
พูดจาภาษาครูเอก - กฎการเติม S/Es ที่คำกริยาใน Present Simple Tense - Youtube
พูดจาภาษาครูเอก – กฎการเติม S/Es ที่คำกริยาใน Present Simple Tense – Youtube
ภาษาอังกฤษ Ep.48 หลักการเติม S หรือ Es หลังคำ กริยา - Youtube
ภาษาอังกฤษ Ep.48 หลักการเติม S หรือ Es หลังคำ กริยา – Youtube
วิธีเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์ การเติม S Es ในภาษาอ ังกฤษ
วิธีเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์ การเติม S Es ในภาษาอ ังกฤษ
การเติม S Es และ Ing - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-21 หน้า | Pubhtml5
การเติม S Es และ Ing – ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-21 หน้า | Pubhtml5
เรื่อง หลักการเติม S Es - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-11 หน้า | Anyflip
เรื่อง หลักการเติม S Es – ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-11 หน้า | Anyflip
หลักการเติม S (Es) ในภาษาอังกฤษ ใคร งง! เข้ามาค่ะ (ตอนอวสาน)
หลักการเติม S (Es) ในภาษาอังกฤษ ใคร งง! เข้ามาค่ะ (ตอนอวสาน)
สอบถามเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ การเติม S หน่อยครับ - Pantip
สอบถามเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ การเติม S หน่อยครับ – Pantip
Verb To Have หลักการใช้ Have / Has ภาษาอังกฤษ
Verb To Have หลักการใช้ Have / Has ภาษาอังกฤษ
หลักการเติม S (Es) ในภาษาอังกฤษ ใคร งง! เข้ามาค่ะ (ตอนอวสาน)
หลักการเติม S (Es) ในภาษาอังกฤษ ใคร งง! เข้ามาค่ะ (ตอนอวสาน)
Plural S Es Ves Ies - ทรัพยากรการสอน
Plural S Es Ves Ies – ทรัพยากรการสอน
ใบงานภาษาอังกฤษ นามเอกพจน์ พหูพจน์ Singular& Plural (Worksheet) -  ภาษาอังกฤษออนไลน์
ใบงานภาษาอังกฤษ นามเอกพจน์ พหูพจน์ Singular& Plural (Worksheet) – ภาษาอังกฤษออนไลน์
9.Tense
9.Tense
เรียนภาษาอังกฤษ ความรู้ภาษาอังกฤษ ทำอย่างไรให้เก่งอังกฤษ Lingo Think In  English!! :): เเบบฝึกหัดภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการเติม
เรียนภาษาอังกฤษ ความรู้ภาษาอังกฤษ ทำอย่างไรให้เก่งอังกฤษ Lingo Think In English!! :): เเบบฝึกหัดภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการเติม “S” ที่คำนาม
เก็บไว้ ได้ใช้แน่นอน English เพื่อลูก
เก็บไว้ ได้ใช้แน่นอน English เพื่อลูก
Pin On แบบฝึกหัดเด็ก
Pin On แบบฝึกหัดเด็ก
Verb To Have หลักการใช้ Have / Has ภาษาอังกฤษ
Verb To Have หลักการใช้ Have / Has ภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษ Ep.48 หลักการเติม S หรือ Es หลังคำ กริยา - Youtube
ภาษาอังกฤษ Ep.48 หลักการเติม S หรือ Es หลังคำ กริยา – Youtube
ทำไมต้องเติม S ที่กริยา(ให้เรางงทำไมอะ?) - Pantip
ทำไมต้องเติม S ที่กริยา(ให้เรางงทำไมอะ?) – Pantip
Add Verb S Es - ทรัพยากรการสอน
Add Verb S Es – ทรัพยากรการสอน

ลิงค์บทความ: หลักการเติม s.

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ หลักการเติม s.

ดูเพิ่มเติม: https://phauthuatdoncam.net/tv-shows-a-z

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *