อ่านตัวเลข ภาษาอังกฤษ: วิธีง่าย ๆ ที่ทำให้คุณสามารถเรียนรู้การอ่านและเขียนตัวเลขในภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง

การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษ (Reading Numbers in English)

การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต้องรู้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเลขที่เราเห็นบนนาฬิกา หรือการอ่านราคาสินค้าในร้านค้า ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพาคุณมาเรียนรู้วิธีการอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษอย่างมีระเบียบ พร้อมกับเคล็ดลับการอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษที่จะช่วยให้คุณอ่านได้อย่างถูกต้องและคล่องตัวกว่าเดิม

การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษตั้งแต่ 0-9
เริ่มแรกเราจะมาเรียนรู้วิธีการอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษตั้งแต่ 0-9 ดังต่อไปนี้:

0 – Zero (ซีโร่)
1 – One (วัน)
2 – Two (ทู)
3 – Three (ทรี)
4 – Four (ฟอร์)
5 – Five (ไฟฟ์)
6 – Six (ซิก)
7 – Seven (เซเว่น)
8 – Eight (เอต)
9 – Nine (ไนน์)

การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษในช่วง 10-100
เมื่อคุณอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษในช่วง 10-100 คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการพูดแต่ละตัวเลขในสิบสิบ ดังต่อไปนี้:

10 – Ten (เท็น)
11 – Eleven (อีเลฟ)
12 – Twelve (ทูเวลฟ์)
13 – Thirteen (เธอร์ทีน)
14 – Fourteen (ฟอร์ทีน)
15 – Fifteen (ฟิฟทีน)
16 – Sixteen (ซิกส์ทีน)
17 – Seventeen (เซเวนทีน)
18 – Eighteen (เอตทีน)
19 – Nineteen (ไนนทีน)
20 – Twenty (ทเวนที)
30 – Thirty (เทิร์ตี)
40 – Forty (ฟอร์ตี)
50 – Fifty (ฟิฟตี)
60 – Sixty (ซิกตี)
70 – Seventy (เซเวนตี)
80 – Eighty (เอตตี)
90 – Ninety (ไนนตี)
ระหว่าง 20-99 เมื่อตัวเลขสิบหน่วยถูกเรียกว่า “เลขหลักสิบ” (ten’s digit) และตัวเลขหลักหน่วยถูกเรียกว่า “เลขหลักหน่วย” (unit’s digit) เช่น 37 อ่านว่า Thirty-seven (เทิร์ตีเซเว่น) และ 45 อ่านว่า Forty-five (ฟอร์ตีไฟฟ์)

การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษในช่วง 100-1000
อีกส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องรู้คือการอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษในช่วง 100-1000 ดังนี้:

100 – One hundred (วัน ฮัปดรেด)
200 – Two hundred (ทู ฮัปดรีด)
300 – Three hundred (ทรีฮัปดรีด)
400 – Four hundred (ฟอร์ฮัปดรีด)
500 – Five hundred (ไฟฟ์ฮัปดรีด)
600 – Six hundred (ซิกซ์ฮัปดรีด)
700 – Seven hundred (เซเว่นฮัปดรีด)
800 – Eight hundred (เอตฮัปดรีด)
900 – Nine hundred (ไนน์ฮัปดรีด)
คุณสามารถเก็บจำหลักการอ่านตัวเลขในช่วง 100-900 ได้โดยง่าย เพียงแค่ระบุตัวเลขหลักหน่วยของเลขหลักแสน ตามด้วยคำว่า “Hundred” (ฮัปดรีด)

การอ่านค่าเลขพิเศษภาษาอังกฤษ
ค่าเลขพิเศษในภาษาอังกฤษอาจเป็นสิ่งที่ซับซ้อนได้ ดังนั้นเรามาเรียนรู้วิธีการอ่านค่าเลขพิเศษเหล่านี้:

1000 – One thousand (วัน ทาวเซินด์)
1,000,000 – One million (วัน มิลเลี่ยน)
3/4 – Three quarters (ทรี ควอร์เตอร์)
ในหลาย ๆ กรณี การอ่านค่าเลขพิเศษจะขึ้นอยู่กับประเภทของเลขที่ต้องการอ่าน ดังนั้นคุณควรศึกษาและฝึกฝนการอ่านค่าเลขพิเศษเพิ่มเติมเพื่อให้เรียนรู้พร้อมรู้ใจ

การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษในรูปแบบของเงิน, ราคา, เวลา
การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษในรูปแบบของเงิน เช่น 1,000 ซึ่งเขียนเป็น “One thousand dollars” หรือ “One thousand pounds” (วัน ทาวเซินด์ ดอลล่าร์ / วัน ทาวเซินด์ เพาส์) หรือการอ่านราคาสินค้า เช่น 6.99 เราสามารถอ่านได้ว่า “Six dollars and ninety-nine cents” (ซิกดอลล่าร์ แอนด์ เนินต์ตี้-ไนน์) นอกจากนี้เรายังมีการอ่านเลขในรูปแบบของเวลา เช่น 8:45 เราอ่านได้ว่า “Eight forty-five” (เอต ฟอร์ตี้-ไฟฟ์)

คำศัพท์สำคัญที่ใช้ในการอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษ
เมื่อคุณกำลังอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษ คุณอาจพบคำศัพท์สำคัญต่อไปนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจและอ่านได้อย่างถูกต้อง:

• Digits (ดิจิตอล) – คำนามที่ใช้อ้างถึงตัวเลขทั้งหมด

• Decimal point (จุดทศนิยม) – จุดที่ใช้เพื่อแยกตัวเลขจำนวนเต็มกับจำนวนทศนิยม
• Hundredths (ฮันเดร็ดซ์) – หน่วยที่ใช้อ้างถึงส่วนของจำนวนทศนิยมหลังจุดทศนิยม ส่วนต่อไปนี้อาจเป็น tenths (ทัส), thousandths (ธัสซอนซี่), หรือ millionths (มิลเลียนซึ่ง)

• Ordinals (ออร์ดินัล) – คำที่ใช้ในการอ่านลำดับของตัวเลข เช่น first (เฟิร์ส), second (เซคอนด์), third (เธิร์ด)

เคล็ดลับสำหรับการอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษอย่างมีระเบียบ
เพื่อช่วยให้คุณอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและมีระเบียบ นี่คือเคล็ดลับบางอย่างที่คุณควรปฏิบัติ:

• ฝึกฝนการอ่านตัวเลขทุกวัน – เพื่อเป็นการฝึกความจำและทักษะการอ่าน

• ใช้ตัวอักษรในการเขียนตัวเลข – หากคุณต้องการดูและโฟกัสตัวเลขเพื่อเขียนและอ่านอย่างถูกต้อง

• การอ่านโดยออกเสียง – อ่านตัวเลขภาษาอังกฤษออกเสียงออกมาเพื่อทยอยฝึกฝนทักษะภาษาของคุณ

การฝึกฝนและประยุกต์ใช้การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
การอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ดังนั้นคุณควรฝึกฝนและประยุกต์ใช้ทักษะการอ่านเหล่านี้ในสถานการณ์ประจำวัน อาจเป็นการอ่านจำนวนผู้คนในสถานที่แออัดหรือการอ่านเวลาในการ

เขียนตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษ
ความสำคัญของการเขียนตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษไม่ควรถูกดลใจละเลย การเรียนรู้การใช้งานตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษสามารถช่วยให้เราสื่อสารได้ตรงประเด็นและเข้าใจที่กันและกันได้อย่างถูกต้อง ในบทความนี้เราจะได้สำรวจข้อมูลที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเขียนตัวเลขในภาษาอังกฤษอย่างละเอียด

การเรียนรู้การเขียนตัวเลขในภาษาอังกฤษจำเป็นต้องทราบตัวเลขมากสุดในระบบของภาษาอังกฤษก่อนเลย ตัวเลขในภาษาอังกฤษแตกต่างจากภาษาอื่นๆ โดยทั่วไป ตัวอักษรและเครื่องหมายในด้านท้ายของตัวเลขจะเป็นเสียงที่ทำให้เราสามารถอ่านและเขียนตัวเลขเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง

ในภาษาอังกฤษมีตั้งแต่ตัวเลข 0 ถึง 9 คือ zero, one, two, three, four, five, six, seven, eight, nine ตามลำดับ ตัวเลขที่มีความยาวมากกว่า 9 จะทำตามรูปแบบโดยการรวมตัวเลขเหล่านั้น หลักแรกของตัวเลขจะถูกเขียนก่อนและจากนั้นจะมีคำว่า “hundred” หรือ “thousand” ตามด้วยคอมม่า

ตัวอย่างการเขียนตัวเลข:

– 43 จะถูกเขียนเป็น forty-three
– 118 จะถูกเขียนเป็น one hundred eighteen
– 1000 จะถูกเขียนเป็น one thousand

เราสามารถใช้เครื่องหมายพิเศษบางอย่างเพื่อช่วยในการเขียนตัวเลขในภาษาอังกฤษได้ เช่น เครื่องหมายขีดล่าง (“hyphen”) เป็นตัวอักษรที่ใช้เพื่อเชื่อมต่อคำหลัง “twenty,” “thirty,” “forty,” “fifty,” “sixty,” “seventy,” “eighty,” และ “ninety” เพื่ออ่านค่าตัวเลขที่อยู่ต่อท้ายอย่างถูกต้อง เช่น:

– 24 จะถูกเขียนเป็น twenty-four
– 67 จะถูกเขียนเป็น sixty-seven
– 89 จะถูกเขียนเป็น eighty-nine

ในบางกรณีเราอาจพบการใช้คำว่า “and” ระหว่างเลขหลักต่างๆ แทนการใช้เครื่องหมายหนึ่งบางตัว เป็นสิ่งที่ค่อนข้างพบบ่อย ตัวอย่างเช่น:

– 430 จะถูกเขียนเป็น four hundred and thirty
– 1001 จะถูกเขียนเป็น one thousand and one

FAQs

Q: ต้องใช้เครื่องหมายพิเศษในการเขียนตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษทุกครั้งหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องหมายพิเศษในการเขียนตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษในทุกครั้ง แต่ในบางกรณีการใช้คำว่า “and” ระหว่างเลขหลักต่างๆ เป็นสิ่งที่เราควรใส่เพื่ออำนวยความสะดวกในการอ่านและเขียน

Q: คำว่า “zero” นับถือว่าเป็นคำใช้กับเลข 0 จริงหรือไม่?
A: ในภาษาอังกฤษ, คำว่า “zero” เราจะใช้ในที่ที่เราต้องการจะกระทำอะไรบางอย่าง ตัวอย่างเช่นเมื่อพูดถึงคะแนนบอล หากผลการแข่งขันมีคะแนนเท่ากับ 0 เราอาจใช้คำว่า “nil” หรือ “nought” แทนและไม่ใช้คำว่า “zero”

Q: แสดงว่าเราต้องทำการเรียนรู้การเขียนตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดหรือเปล่า?
A: ความรู้เกี่ยวกับการเขียนตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้และใช้งานในหลายสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณใช้งานแบบพื้นฐานเหล่านี้เป็นประจำ ก็คงสามารถใช้สื่อสารในภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ในทางให้ความหมายตรงกันไปยังจุดประสงค์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ในภาษาไทย

การเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนที่ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษควรทำความเข้าใจอย่างละเอียด ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีผู้คนใช้งานมากทั่วโลก การรู้จักและเข้าใจเลขภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวัน ในบทความนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จัก เรียนรู้ เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ในภาษาไทยอย่างละเอียด โปรดอ่านต่อ!

โดยทั่วไปแล้ว เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 เป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ช้าๆ ตั้งแต่สอนในชั้นเรียนของเรา และอาจจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยครั้ง เช่น การพูดเวลา การสั่งให้บริกรทำอะไรบางสิ่ง การแสดงตัวเลขในรูปแบบอื่นๆ เช่น ให้มองหาเลขมากสุดหรือน้อยสุดในรายงานต่างๆ

นิยามของเลขภาษาอังกฤษ 1-1000000

เลขโรมันแทนกรอบคิวเลขหรือจำนวนประจำตัว โดยทั่วไปแล้ว เลขโรมันอยู่ในประเภทมาตรวัดจำนวนหรือจำนวนประจำตัว และมักถูกใช้คู่กับตัวพยัญชนะเมื่อเรียกใช้งานในคำพูด เลขโรมัน 1 ถึง 1000000 ถ้าเจอลำดับเลขโรมัน ให้เรียนรู้แบบละเอียด เราสามารถเปลี่ยนเลขโรมันให้เป็นเลขภาษาอังกฤษในเครื่องหมาย ที่ระบุ ที่เรียกว่า ‘เลขภาษาอังกฤษ’

เลขภาษาอังกฤษ 1-10

1 – one

2 – two

3 – three

4 – four

5 – five

6 – six

7 – seven

8 – eight

9 – nine

10 – ten

เลขภาษาอังกฤษ 11-20

11 – eleven

12 – twelve

13 – thirteen

14 – fourteen

15 – fifteen

16 – sixteen

17 – seventeen

18 – eighteen

19 – nineteen

20 – twenty

เลขภาษาอังกฤษ 21-30

21 – twenty-one

22 – twenty-two

23 – twenty-three

24 – twenty-four

25 – twenty-five

26 – twenty-six

27 – twenty-seven

28 – twenty-eight

29 – twenty-nine

30 – thirty

เลขภาษาอังกฤษ 31-40

31 – thirty-one

32 – thirty-two

33 – thirty-three

34 – thirty-four

35 – thirty-five

36 – thirty-six

37 – thirty-seven

38 – thirty-eight

39 – thirty-nine

40 – forty

เลขภาษาอังกฤษ 41-50

41 – forty-one

42 – forty-two

43 – forty-three

44 – forty-four

45 – forty-five

46 – forty-six

47 – forty-seven

48 – forty-eight

49 – forty-nine

50 – fifty

เลขภาษาอังกฤษ 51-60

51 – fifty-one

52 – fifty-two

53 – fifty-three

54 – fifty-four

55 – fifty-five

56 – fifty-six

57 – fifty-seven

58 – fifty-eight

59 – fifty-nine

60 – sixty

เลขภาษาอังกฤษ 61-70

61 – sixty-one

62 – sixty-two

63 – sixty-three

64 – sixty-four

65 – sixty-five

66 – sixty-six

67 – sixty-seven

68 – sixty-eight

69 – sixty-nine

70 – seventy

…
ถ้าคุณกำลังเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณ อย่างไรก็ตามหากคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีคำถามเกี่ยวกับเลขภาษาอังกฤษ คุณสามารถดูหมวดคำถามที่พบบ่อยข้างล่างนี้ได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000

Q1: เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 สำคัญต่อชีวิตประจำวันอย่างไร?
A1: เรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 สำคัญเพื่อใช้ในการแสดงตัวเลขในชีวิตประจำวัน เช่น การสั่งให้บริกรทำอะไรบางสิ่ง การแสดงตัวเลขในรูปแบบอื่นๆ เช่น การให้มองหาเลขมากสุดหรือน้อยสุดในรายงานต่างๆ

Q2: ทำไมถึงเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ในภาษาไทย?
A2: เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ใช้กันทั่วโลก และอาจมีการใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ การเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษในภาษาไทยจะช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น

Q3: เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ที่ฉันต้องจำจะละเคราะห์เป็นเลขโรมันใช้ได้อย่างไร?
A3: คุณสามารถใช้ตารางที่มีเลขโรมันและเลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ที่สถานการณ์ที่คุณต้องการใช้งานเลขภาษาอังกฤษ เช่น ในรายงาน หนังสือ และเว็บไซต์สื่อสาร

ในปิดท้ายเราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียนรู้เลขภาษาอังกฤษ 1-1000000 ในภาษาไทย!

มี 12 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ อ่านตัวเลข ภาษาอังกฤษ.